“ครม.” ไฟเขียวขยายขึ้นทะเบียน “เยียวยาเกษตรกร” ถึง 15 ก.ค. พร้อมเพิ่มเยียวยา “กลุ่มเกษตรกรด้อยโอกาส” 1.3 แสนราย
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (16 มิ.ย. 63) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติ 4 โครงการช่วยเหลือเยียวยาภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินฯ 1 ล้านล้านบาท ได้แก่
1.โครงการช่วยเหลือ เยียวยาเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพิ่มเติมจากที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จ่ายไปแล้ว 7 ล้านรายในงวดแรก
- ครม. เห็นชอบเพิ่มกลุ่มเป้าหมาย “เกษตรกรที่ด้อยโอกาสและยังไม่สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตร” จำนวน 137,093 ราย โดยต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และยังไม่เคยได้รับการเยียวยาจากมาตรการอื่นๆ มาก่อน โดยเกษตรกรกลุ่มนี้ จะอยู่ภายใต้กลุ่มเป้าหมายการ เยียวยาเกษตรกร 10 ล้านคนที่กระทรวงเกษตรฯ เคยวางไว้
- ครม. เห็นชอบขยายเวลาการจ่ายเงินให้เกษตรกร สำหรับ “เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 แต่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลเกษตรกรได้สมบูรณ์ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563” จำนวน 120,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรในฤดูกาลที่แล้ว แต่ฤดูกาลนี้ขึ้นทะเบียนไม่ทันวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 จึงให้ขยายเวลาการลงทะเบียนไปจนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2563
2.โครงการช่วยเหลือเยียวยาแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 สำหรับ “ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากโครงการอื่นๆ ของภาครัฐ ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด จำนวน 1,164,222 คน ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่
โดยกลุ่มนี้ไม่ต้องลงทะเบียนเพิ่มเติม และจะได้รับเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 กรอบงบประมาณรวม 3 พันกว่าล้านบาท
2.โครงการช่วยเหลือเยียวยาสำหรับ “ผู้ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันไม่สำเร็จ” โดยกระทรวงการคลังรวบรวมข้อมูลได้ 302,000 คน กรอบวงเงินอยู่ที่ไม่เกิน 906 ล้านบาท
ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบว่า ประชาชนกลุ่มนี้ไม่เคยได้รับการเยียวยาโควิด-19 จากหน่วยงานอื่นๆ มาก่อน ได้แก่ กระทรวงการคลัง, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และไม่ใช่ผู้ประกันตนในระบบสังคมมาตรา 33
โดยที่ประชุม ครม. มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังไปจัดทำรายละเอียดและกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน จากนั้นเสนอให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทฯ พิจารณาให้แล้วเสร็จใน 1 เดือน
4.โครงการเยียวยากลุ่มเปราะบางตามที่ ครม. เคยเห็นชอบในหลักการมาแล้ว โดยเมื่อตรวจสอบไม่ให้ซ้ำซ้อนกับมาตรการเยียวยาอื่นๆ พบว่า มีกลุ่มเปราะบางเข้าข่ายได้รับการเยียวยา จำนวน 6.7 ล้านคน แบ่งเป็น
- เด็กแรกเกินถึง 6 ปี จากครอบครัวยากจน3 ล้านคน
- ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านคน
- ผู้พิการ3 ล้านคน
การจ่ายเงินเยียวยา จะจ่ายให้รายละ 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 โดยเพิ่มเติมจากเงินอุดหนุนเดิมที่เคยได้รับ ได้แก่ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด, เบี้ยความพิการ และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
เงินจะโอนเข้าในเดือนมิถุนายน จำนวน 2 งวด รวม 2,000 บาท และเดือนกรกฎาคม 1 งวด อีกจำนวน 1,000 บาท รวมต้องใช้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ล่าสุดวันนี้ (16 มิ.ย. 63) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้โอนเงิน เยียวยาเกษตรกร งวดที่ 2 ให้เกษตรกร จำนวน 999,984 ราย รวมผลการโอนเงิน 2 วัน จำนวน 1,999,968 ราย เป็นเงิน 9,999.84 ล้านบาท โดยคาดว่า จะดำเนินการเสร็จสิ้นวันที่ 21 มิถุนายนนี้
ผลการจ่ายเงินเยียวยางวดที่ 1 ของเดือนพฤษภาคม 2563 จ่ายแล้ว 7,235,675 ราย รวมทั้งสิ้น 36,178,38 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับผู้ขอรับสิทธิ์เยียวยาเกษตรกรสามารถตรวจสอบสิทธิ์การได้รับการช่วยเหลือผ่าน เว็บไซต์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือแอพพลิเคชั่นเกษตรดิจิทัล-Digital Farmer รวมถึงตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทาง www.เยียวยาเกษตรกร.com
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ เฮหนัก! ครม. ไฟเขียวจ่าย 3,000 บาทเยียวยาโควิด-19
- รัฐบาลเดินหน้า ‘เยียวยาเกษตรกร’ จัดสินเชื่อ 1.7 แสนล้านฟื้นฟูหลังโควิด!
- รอรับได้เลย!! เช้านี้ ‘ธ.ก.ส.’ โอนเงินเยียวยาเกษตรกรเพิ่มอีก 9.9 แสนราย