Business

คลัง เตรียมหว่านงบกว่าหมื่นล้าน กระตุ้นท่องเที่ยว ก.ค.นี้ เริ่มจากนักรบเสื้อขาว

กระตุ้นท่องเที่ยว คลังเร่งหารือ ททท. สรุปแผนภายในสัปดาห์นี้ คาดใช้งบไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ตั้งเป้าเดือนก.ค.นี้ เริ่มขับเคลื่อน ประเดิมกลุ่มจากบุคลากรทางการแพทย์

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการหารือ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งวางเป้าหมายเบื้องต้น จะสรุปแนวทางการดำเนินงานทั้งหมดให้ได้ภายในสัปดาห์นี้

แจกเงินเที่ยว ๒๐๐๖๑๐ 0008

หลังจากนั้น จะนำเสนอให้ คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการใช้ เงินกู้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่มี เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาวงเงินงบประมาณ ที่จะใช้ดำเนินการต่อไป เพื่อให้มาตรการเริ่มมีผลใช้ได้ภายในเดือน กรกฏาคมม 2563 เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ

สำหรับวงเงิน ที่จะใช้ในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้น เบื้องต้นอาจจะมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่จะเป็นเท่าไหร่นั้น ยังอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปว่าต้องการจะออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่มีผลมากน้อยขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม แนวทางในการกระตุ้นการท่องเที่ยวเบื้องต้น ที่คาดว่าจะเร่งดำเนินการเป็นอันดับแรก คือ การส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์ และ อาสาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวนกว่า 1.2 ล้านคน ได้เดินทางท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนนี้เป็นไปตามที่ ททท. เสนอมา

fig 01 03 2020 10 22 45

ส่วนแนวทางเรื่องการแจกเงิน หรือการแจกวอชเชอร์ ซึ่งเป็นอีกข้อเสนอของ ททท. นั้น ยังไม่มีการสรุปในขณะนี้ เพราะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบว่าแต่ละแนวทางที่ดำเนินการมีทั้งข้อดี ข้อเสีย และการดำเนินการจะต้องมีความคุ้มค่า และเป็นไปตามเป้าหมายคือการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการพิจารณา นำแนวทางการของ มาตรการแคชแบ็ค มาใช้ในการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเมื่อประชาชนไปเที่ยว และมีการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว รัฐบาลก็จะจ่ายเงินแคชแบ็คกลับคืนให้ประชาชนทันที ซึ่งมองว่าแนวทางนี้น่าจะได้ผลดีมากกว่า

ส่วนรายละเอียดว่าจะแคชแบ็คคืนจำนวนเท่าไหร่ กรอบวงเงินในการแคชแบ็คต้องไม่เกินเท่าไหร่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยทั้งหมดจะต้องเร่งสรุปออกมาเป็นแพ็คเกจเดียว เพื่อเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองฯ และเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

ในส่วนข้อเสนอของภาคเอกชน ที่ต้องการให้กระทรวงการคลัง พิจารณามาตรการหักลดหย่อนภาษี โดยตามข้อเสนออยากให้มีการหักลดหย่อนมากกว่า 15,000 บาท อาจเป็น 50,000 บาทนั้น คงต้องมาพิจารณาถึงความเหมาะสม และคุ้มค่าด้วย

“เบื้องต้นมองว่ามาตรการทางภาษีอาจจะไม่มีผล หรือมีแรงจูงใจมากเพียงพอที่จะกระตุ้นให้ประชาชนออกไปท่องเที่ยว เพราะการคืนภาษีตามมาตรการทำได้ช้า ดังนั้นมาตรการด้านภาษีจึงไม่มีผลทำให้เกิดการท่องเที่ยวได้ทันที”นายลวรณ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo