POLITICS-GENERAL

เตือน! พื้นที่ฝนตกหนัก เสี่ยงฟ้าผ่า แนะเลี่ยงที่โล่งแจ้ง อยู่ในรถ-อาคารให้ปฏิบัติ 3 ข้อ

เตือน! พื้นที่ฝนตกหนักเสี่ยงฟ้าผ่า แนะเลี่ยงอยู่ที่โล่งแจ้ง งดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นสื่อเหนี่ยวนำไฟฟ้า หากอยู่ในรถ-อาคาร ต้องปฏิบัติ 3 วิธี ให้ปลอดภัย

lightning 4013537 640

นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานว่าในช่วงวันที่ 14 – 18 พฤษภาคมนี้ บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงเกิดขึ้นบางพื้นที่

เนื่องจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ ยังคงพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมประเทศไทย ส่งผลกระทบให้เกิดอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมทั้งฟ้าผ่า ไว้ด้วย การก่อตัวของพายุ อาจทำให้เกิดฝนฟ้าคะนอง เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดฟ้าผ่า และนำภัยอันตรายมาสู่ชีวิตได้

ประชาชนจึงต้องรู้จักป้องกันตนเอง โดยขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง เช่น ทุ่งนาสนามฟุตบอล สนามกอล์ฟ หากเลี่ยงไม่ได้ต้องไม่อยู่ใกล้ที่สูง เช่น ต้นไม้สูง เสาโทรศัพท์ เสาไฟฟ้า ถอดวัตถุหรือเครื่องประดับ ที่เป็นโลหะออกจากร่างกาย

กรณีหลบอยู่ในรถยนต์ ต้องปฏิบัติ 3 ข้อ ดังนี้

1. จอดรถห่างจากต้นไม้ใหญ่ ตึกสูง เสาไฟฟ้า หรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่

2. ดับเครื่องยนต์ ปิดกระจก

3. อย่าสัมผัสกับส่วนใดส่วนหนึ่งของรถที่เป็นโครงโลหะ

กรณีอยู่ในอาคาร ให้ปฏิบัติ 3 ข้อดังนี้

1. ปิดประตูหน้าต่างทุกบาน

2. อยู่ห่าง จากผนังอาคาร ประตูและหน้าต่าง

3. ถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด

หากพบเห็นผู้ที่ถูกฟ้าผ่า ให้ทำ 6 ขั้นตอน ต่อไปนี้

1. สังเกตบริเวณที่เกิดเหตุ ว่ายังมีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า หรือไม่

2. ถ้ามี ให้เคลื่อนย้ายผู้ถูกฟ้าผ่า ไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัย โดยสามารถแตะต้องตัวผู้ถูกฟ้าผ่าได้ทันที เนื่องจากคนที่ ถูกฟ้าผ่า จะไม่มีกระแสไฟฟ้าหลงเหลืออยู่ในตัว ซึ่งต่างจากผู้ที่ถูกไฟฟ้าดูด หรือไฟฟ้าซ็อต

3. รีบโทรแจ้งเหตุ สายด่วนช่วยชีวิต 1669 พร้อมให้ข้อมูลสถานที่เกิดเหตุและอาการของผู้ป่วย

4. ปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้น จากศูนย์รับแจ้งเหตุในการดูแลผู้ป่วย

5. ระหว่างรอรถฉุกเฉินมารับผู้ป่วย กรณีที่ผู้ถูกฟ้าผ่า หมดสติ หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ โดยสังเกตได้จากอาการ ริมฝีปากเขียว สีหน้าซีดเขียวคล้ำ ทรวงอกเคลื่อนไหว น้อยมาก หรือไม่เคลื่อนไหวเลย ชีพจรบริเวณคอเต้นช้าและเบามาก

ให้รีบปฐมพยาบาล โดยใช้การช่วยฟื้น คืนชีพขั้นพื้นฐาน หรือ CPR คือ ผายปอดด้วยการให้ลมทางปาก หรือที่เรียกว่า การเป่าปาก ร่วมกับการนวดหัวใจ หรือหากในบริเวณนั้นมีเครื่องช่วยชีวิตฉุกเฉิน (AED) ก็สามารถใช้เพื่อช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ทันที

6. รีบนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

Avatar photo