COVID-19

ต้องไม่ประมาท! เหตุผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ลดต่อเนื่อง เหลือ 33 ราย

ศบค.รายงานตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ 33 ราย ยอดสะสม 2,551 ราย ขอคนไทยไม่ประมาท เหตุ 208 ประเทศทั่วโลกยังระบาดหนัก กลุ่มกลับจากต่างประเทศยังเป็นกลุ่มเสี่ยงใหญ่  ย้ำติดเชื้อกันเองในบ้านสูงสุด ต้อง “ไม่เล่นน้ำสงกรานต์” เชื้อฟุ้งกระจายได้ ระบุวัยหนุ่มสาวป่วยสูงสุด มักไม่แสดงอาการ เสี่ยงนำเชื้อไปติดพ่อแม่ ลูกหลาน และคนสูงอายุในบ้าน 

report01 1

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 12 เมษายน ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 33 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 2,551 ราย หายกลับบ้านเพิ่ม 83 ราย รวมกลับบ้าน 1,218 ราย อยู่รพ.1,295 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมผู้เสียชีวิต 38 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ประกอบด้วย

  • สถานบันเทิง 2 ราย
  • สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 15 ราย อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ 7 ราย
  • กลับจากต่างประเทศ 1 ราย จากอังกฤษ
  • กลุ่มผู้ป่วยที่กลับจากต่างประเทศ เข้า State Quarantine และป่วยระหว่างนั้น 2 ราย มาจากอินโดนิเซีย 2 ราย อยู่จังหวัดนราธิวาส รวมกลุ่ม ที่ร่วมพิธีกรรมทางศาสนา กลับมาจากอินโดนิเซียป่วยรวม 49 ราย
  • ไปสถานที่ชุมชน 1 ราย
  • อาชีพเสี่ยง 1 ราย
  • บุคลากรการแพทย์ 7 ราย อยู่ในกรุงเทพ 5 ราย ถือว่าป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ต้องหาวิธีป้องกัน
  • รอสอบสวนโรค 4 ราย

TH UpDate022

ผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย

รายที่ 1  เป็นชายไทยอายุ 74 ปี อยู่ที่นครศรีธรรมชาติ มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ไข้มัน มีประวัติดื่มสุรา และสูบบุหรี่ และไปตลาดนัด และรวมกลุ่มกันในบ้าน เริ่มป่วย 1 เมษายน มีอาการไข้ ปวดเสียดท้อง อุจจาระสีดำ คือ มีเลือดออกในกระเพาะ รักษาที่รพ.นครศรีธรรมราช ต่อมาไข้สูง 39.4 องศา ส่งต่อรักษาที่รพ.อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดเดียวกัน ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 11 เมษายน

รายที่ 2 เป็น หญิง อายุ 65 ปี มีภาวะอ้วน ไข้มันในเลือดสูง เข้ารับการรักษาที่รพ.ในจัหวัดชุมพร ด้วยภาวะเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ ( Cellulitis) ต่อมาป่วยด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ เหนื่อยมาก อ่อนเพลีย อาการไม่ขึ้น ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก เสียชีวิตในวันที่ 11 เมษายน

รายที่ 3 เป็นชายไทย อายุ 44 ปี สถาบันบำราศนราดูร รับร้กษาต่อจากรพ.เอกชน 28 มีนาคม มีอาการรุนแรงตั้งแต่แรกรับ รักษาโดยยาหลายขนาน แต่อวัยวะล้มหลายหลายระบบ ล้างไต้หลายครั้ง และเสียชีวิตเช้าวันนี้ ( 12 เม.ย.)

report04 4

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 33 ราย อยู่ในกรุงเทพ 14 ราย ยะลา 5 ราย ภูเก็ต 4 ราย ปัตตานี 3 ราย นราธิวาส และสมุทรสาคร จังหวัดละ 2 ราย เลยชลบุรี และนครศรีธรรมชาติ จังหวัดละ 1 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม กรุงเทพ 1,294 ราย ภูเก็ต 176 ราย นนทบุรี 148 ราย สมุทรปราการ 106 ราย ยะลา 82 ราย ปัตตานี 77 ราย ชลบุรี 76 ราย สงขลา 56 ราย เชียงใหม่ 40 ราย ปทุมธานี 33 ราย

ส่วนอัตราผู้ป่วยต่อแสนประชากร ภูเก็ตยังสูงสุด 42.57 กรุงเทพ 22.82 ยะลา 15.35 นนทบุรี 11.78 ปัตตานี 10.67  และใน 9 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ

report03 4

ทั้งนี้แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อของไทยจะลดลง แต่การ์ดเราต้องไม่ตก โดยเฉพาะไทยมีวัยหนุ่มสาวที่มีอัตราแพร่เชื้อสูงสุด ช่วงอายุ 30-39 ปี จำนวน 612 ราย ซึ่งมักไม่มีอาการในช่วงแรกๆ ดังนั้นกลุ่มนี้ ในช่วงสงกรานต์ ต้องอยู่ที่ตั้ง ไม่เดินทางกลับไปภูมิลำนา ไม่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ทุกที่ แม้ในบ้าน เพราะการฉีดน้ำ หากมีเชื้อในบ้าน จะเกิดการฟุ้งกระจายได้ และจะนำเชื้อไปติดเด็กๆ ทั้งต้องไม่มีการรดน้ำอวยพรผู้ใหญ่ เพราะจะนำเชื้อไปติดพ่อแม่ปู่ย่าตายได้ ทรงน้ำพระได้ แต่ไม่มุงกัน ให้ยืนห่างๆกัน ” อย่าให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อของเราพุ่ง เพราะความประมาท “

12Map increase

นพ.ทวีศิลป์ ประเมินว่า 8 มาตรการ และการประกาศเคอร์ฟิวถือว่าได้ผล และหากตั้งวงก๊งเหล้าลดลง อุบัติเหตุก็จะลดลงไปด้วย ซึ่งก็พบว่าได้รับความร่วมมือมากขึ้นตามลำดับ จากข้อมูลของผู้กระทำความผิดจากมาตรการเคอร์ฟิว พบว่า ตั้งแต่ 4 – 12 เมษายน ออกนอกเคหะสถาน จำนวน 8,166 ราย ดำเนินคดี 6,482 ราย คิดเป็น 79% ตักเตือน 1,684 ราย คิดเป็น 21% และชุมนุมมั่วสุม 702 ราย ดำเนินคดี 599 ราย ตักเตือน 103 ราย ซึ่งวานนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีก็ได้ออกไปให้กำลังใจคนทำงานในด่านตรวจตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเท็จจริง

สำหรับเหตุผลของการออกนอกเคหสถาน 3 ลำดับแรก คือ เดินทางกลับที่พัก ออกมาทำธุระ และขับขี่ยานพาหนะเล่น กรณีนี้ตักเตือนไป 174 ราย ดำเนินคดี 752 ราย ส่วนเหตุของการชุมนุม มั่วสุม มาจากการดื่มสุรา เล่นการพนัน และยาเสพติด ดำเนินคดี 58 ราย

report02 5

นพ.ทวีศิลป์ ย้ำว่า ทำไมการ์ดเราต้องไม่ตก เพราะตอนนี้ทั่วโลกถึง 208 ประเทศ ยังมียอดผู้ป่วย ถึง 1.77 ล้านคน และเสียชีวิตสูงถึง 108,755 ราย เฉพาะเมื่อวันที่ 11 เมษายนเสียชีวิตไป 6,000 ราย สหรัฐอันดับ 1 ป่วย 5.3 แสนกว่าราย เสียชีวิต 20,562 ราย ไทยอยู่อันดับ 47 ส่วนรอบบ้านเรา มาเลเซียมีผู้ป่วยเพิ่ม 184 ราย มียอดผู้ป่วยสะสม 4,530 ราย ฟิลิปปินส์ 233 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 4,428 ราย

สิงคโปร์ หลายคนบอกทำดี แต่ก็มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 191 รายใหม่ ยอดผู้ป่วยสะสม 2,299 ราย อินโดนิเซีย มีรายใหม่ 330 ราย ป่วยสะสม 3,842 ราย อินเดียป่วยเพิ่ม 846 ราย ป่วยสะสม 8,446 ราย ทำให้เราต้องดูแลคนไทยกลับมาจากต่างประเทศ เพราะถือว่าท่านมีความเสี่ยง State Quarantine จึงต้องเกิดขึ้น และการ์ดเราต้องไม่ตก ต้องทำให้ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ต่ำๆยืนระยะยาว

report04 4

” ตอนนี้หลายประเทศทุกข์กับยอดเสียชีวิต เพราะป่วยเป็นแสนราย ก็เห็นความร่วมมือกัน เช่น จีนก้าวผ่านมาแล้ว ก็ไปช่วยคนอื่น เราต้องนำเรื่องดีๆ มาเล่ากัน ตอนนี้เห็นบรรยากาศของเราในการรวมพลัง จนทำให้ตัวเลขลดลง และได้เห็นความเชื่อมั่น ความเก่งของระดับจังหวัด มีความผูกพันของคนในสังคม ผูกพันทางจิตใจต่อกัน ไม่อยากให้แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะมีศัตรูร่วมกัน คือ เจ้าไวรัสโควิด-19 ขอให้เราให้กำลังใจกัน ให้ก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน “

Avatar photo