COVID-19

‘หมอแก้ว’ แจงผลตรวจผอ.รพ.สมุทรปราการ ล่าสุด ไม่เป็นโควิด-19 เหตุตรวจครั้งแรก เป็น ‘บวกแบบอ่อน’

“หมอแก้ว” ชี้ ผลแล็บผอ.รพ.สมุทรปราการ ไม่เป็นโควิด-19 ระบุผลแล็บตรวจครั้งแรก เป็นบวกแบบอ่อน ตรวจอีกครั้งจึงไม่พบเชื้อ ย้ำผู้เชี่ยวชาญต้องหารือ วางแนวทางใหม่ ป้องกันความผิดพลาด ย้ำขอความร่วมมือผู้กลับจากต่างประเทศกักตัว 14 วัน เหตุ เป็นผู้ติดเชื้อ 1 ใน 3  ย้ำมาตรการจะผ่อนคลายเมื่อไม่พบผู่ป่วยรายใหม่ 

914977

กรณีเฟซบุ๊ก ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุผลตรวจของผู้อำนวยการรพ.สมุทรปราการ มีผลเป็นลบ และออกมาประกาศขอโทษ จากก่อนหน้าที่มีข่าวว่าผอ.รพ.สมุทรปราการ ติดโควิด-19 นั้น

หมอแก้ว นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบายว่า ตามที่อาจารย์ธีระวัฒน์ ระบุไว้ คือ คนไข้มีอาการต้นเดือนมีนาคม กว่าจะวินิจฉัยกลางถึงปลายเดือนมีนาคม ผลตรวจครั้งแรก เป็นบวกแบบอ่อนๆ โดยหลักเกณฑ์วันนี้ คือ ยืนยันจากผลตรวจแล็บเดียว จากเดิม 2 แล็บ อย่างไรก็ตามการตรวจแบบ PCR นั้น จะมีวงรอบของการตรวจ เมื่อตรวจซ้ำ จงให้ผลลบ อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นแบบนี้ ต้องไปหารือต่อไป

ทั้งนี้ผลตรวจก็คลาดเคลื่อนได้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกราย ไม่ต้องกังวล และอนาคต ผู้เชี่ยวชาญห้องปฏิบัติการ ก็ต้องไปหารือกันให้ชัดเจน กรณีนี้เข้าใจว่าการวินิจฉัยผ่านมานาน และผู้สัมผัสใกล้ชิด ก็ครบ 14 วันแล้ว  การเฝ้าระวังควบคุมโรค จึงไม่มีประเด็นแล้ว

ส่วนการเชิญชวนให้ผู้หายจากไวรัสโควิด-19 ไปบริจาคเลือดหลังจากหายแล้วนั้น ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่โดยหลักการแล้ว คนที่รักษาหาย จะมีภูมิคุ้มกันไปจัดการกับเชื้อได้ ในจีนช่วงหนึ่ง ก็ออกข่าวให้คนหายจากโควิด-19 ไปบริจาคเลือด ก็เหมือนไปบริจาคภูมิคุ้มกัน ไปรักษาผู้ป่วย ไทยก็เคยทำแล้ว กรณีคนไทยรักษาหายคนแรกๆที่เป็นลุงขับรถแท็กซี่ ก็ไปบริจาคภูมิคุ้มกันรักษาคนไข้หนัก ในเชิงทฤษฎี หลายฝ่ายเชื่อว่า จะช่วยผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้ ดังนั้นหลักการเป็นไปได้ที่ภูมิคุ้มกันจะเป็นประโยชน์

ทางด้านกรณีกลุ่มผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศวานนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่กักตัวนั้น และบางรายที่ไปกักตัว มีการโพสต์วิจารณ์ว่า กักตัวที่สัตหีบ ให้นอนห้องเดียวกัน 3 คนนั้น นพ.ธนรักษ์ ย้ำว่า อยู่ที่การจัดการของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตามใช้มาตรฐานเดียวกันทุกกรณี ตั้งแต่รับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น และก็มีมาตรการนอกเหนือจากเรื่องห้อง คือ มีหน้ากาก เจล และมีมาตรการป้องกันอื่นๆ ทั้งนี้ระหว่างอยู่ในสถานที่กักกัน ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้ความร่วมมือ และขอให้มั่นใจในในการดูแลป้องกันของรัฐ

พร้อมย้ำว่า ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 89 ราย 1 ใน 3 เป็นผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือ 21 ราย เป็นคนไทย 18 ราย ต่างชาติ 3 ราย ซึ่งภาครัฐได้เข้มงวดกระบวนการรับตัวไว้สังเกตอาการ ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ เพราะคนเสี่ยงสุดที่จะติดเชื้อ คือคนที่อยู่ใกล้ชิด คนในครอบครัว หรือคนที่ร่วมสังสรรค์ด้วย

นพ.ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า จังหวัดที่พบผู้ป่วยจำนวนมาก นอกจากจะใช้มาตรการด้านสาธารณสุข คือติดตามผู้สัมผัสแล้ว ยังต้องใช้มาตรการทางสังคม ทั้งเรื่องการเพิ่มระยะห่าง ไม่ไปในพื้นที่คนแออัด ล้างมือบ่อยๆ เนื่องจากไม่ทราบว่าใครติดเชื้อบ้าง การไปที่มีคนหนาแน่น มีโอกาสติดเชื้อสูงมากในตอนนี้

” มาตรการด้านสาธารณสุข และมาตรการด้านสังคม เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกพื้นที่ที่พบผู้ป่วยรายใหม่ ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันให้ผู้ป่วยรายใหม่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนถึงไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ เมื่อถึงตอนนั้นมาตรการต่างๆ จะผ่อนคลายลง ให้ทุกคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ”

Avatar photo