เชียงใหม่เพิ่มมาตรการเข้มคุม ‘ไวรัสโควิด-19’ ระบาด สั่งปิดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มถึง 13 เมษายนนี้ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 5 คน เฝ้าระวังโรคพุ่ง 439 คน เร่งตามตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยงอีก 21 คน
วันนี้ (22 มี.ค.) นายเจริญฤทธิ์ สงวนศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ นายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ โดยระบุว่า จากกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น ทำให้คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัดจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการ เพื่อป้องกัน และปิดกั้นวงจรการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าไปอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่งเกินความจำเป็นมากเกินไป
ดังนั้น จึงมีการปรับปรุงประกาศในเรื่องของการปิดสถานที่บางแห่ง โดยยกเลิกคำสั่งฉบับที่ 1 และแก้ไขเป็นประกาศฉบับที่ 2 และกำหนดพื้นที่สำหรับปฎิบัติการชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 13 เมษายนนี้
- ปิดสถานศึกษาทุกระดับ และสถาบันกวดวิชา
- ปิดศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดนิทรรศการ
- ปิดพื้นที่บางส่วนของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคารหรือบริเวณเดียวกัน เว้นแต่พื้นที่ของซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา หรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต รวมทั้งสำนักงาน ธนาคาร
สำหรับร้านอาหาร ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น - ตลาดให้เปิดจำหน่ายเฉพาะอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น อาหารสัตว์ ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
- ถนนคนเดิน
- ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น และร้านอาหาร เครื่องดื่มในในโรงแรมให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรมเท่านั้น
- ปิดพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหารในร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม
- ปิดสถานบริการ และสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ รวมถึงสถานที่มุ่งเน้นการขาย จ่าย แลกเปลี่ยนให้สุรา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อดื่มกินในสถานที่นั้น ๆ เช่น ร้านเหล้าตอง
- ปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ได้แก่ ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อเสริมความงาม
- ปิดสถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ สมุนไพร เว้นแต่การรักษาพยาบาลดังกล่าวในสถานพยาบาล
- ปิดร้านเสริมสวย ร้านตัดผม หรือแต่งผม ร้านแต่งเล็บ
- ปิดสถานที่บริการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย
- ปิดสถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนักหรือเสริมความงาม และสถานที่เสริมความงาม
- ปิดสระว่ายน้ำ รวมถึงสระว่ายน้ำของหมู่บ้าน หรืออาคารชุดที่พักอาศัย
- ปิดสถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส
- ปิดสถานที่เล่นสเก็ต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน
- ปิดเครื่องเล่นในอาคาร เครื่องเล่นภายนอกอาคาร เครื่องเล่นชั่วคราว สวนสนุก รวมถึงโซนอุปกรณ์เครื่องเล่นสำหรับเด็กเล่นในห้างสรรพสินค้า
- ปิดร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ตและตู้เกมส์ หรือสถานที่อื่นใดที่มีการให้บริการในลักษณะคล้ายกัน
- ปิดร้านคาราโอเกะ
- ปิดสถานประกอบกิจการ โรงมหรสพ โรงภาพยนต์ โรงละคร
- ปิดศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่องพระบูชา
- ปิดสนามกอล์ฟ หรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ
- ปิดสนามยิงปืน
- ปิดบ่อตกปลา ตกกุ้ง หรือกิจกรรมใดในประเภทเดียวกัน
- ปิดสนามกีฬาประเภทที่มีการสัมผัสร่างกายหรือใช้อุปกรณ์ร่วมกัน อาทิเช่น สนามฟุตบอล ฟุตซอล 26. ปิดโต๊ะสนุ๊กเกอร์ บิลเลี่ยน และสถานที่เล่นโบว์ลิ่ง
- ปิดสนามมวย โรงฝึกสอนมวย ค่ายมวย โรงเรียนสอนฝึกซ้อมศิลปะป้องกันตัว
- ปิดสนามชนไก่ สนามประลองไก่ สนามม้า หรือสนาม หรือพื้นที่ที่จัดให้มีการต่อสู้กัน
ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งประกาศดังกล่าวเป็นการประกาศล่าสุดของวันนี้
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น นายแพทย์วรเชษฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยว่า พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีการยืนยันผู้ป่วยเพิ่ม 5 ราย รวมยอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ 12 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 ราย ยังอยู่โรงพยาบาล 11 ราย
ส่วนในกรณีของการเฝ้าระวังผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคตอนนี้ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 439 ราย และกลับบ้านไปแล้ว 355 ราย อยู่ที่โรงพยาบาล 84 ราย
นอกจากนี้ ยังมีการกักตัวกรณีผู้เดินทางจากเขตโรคติดต่อ เพิ่มขึ้นเป็น 418 ราย กักตัวอยู่ที่บ้าน 153 ราย และอยู่ในสถานที่ที่มีการจัดไว้ให้อีก 16 ราย และอยู่ในระหว่างการติดตามตัวอีก 21 ราย
- ‘โควิด-19’ พ่นพิษ! 8 จังหวัดยอดพุ่ง-เปิด10 จว.ใหม่พบผู้ติดเชื้อ
- ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 รายใหม่ ทะลุ 188 ราย ยอดสะสม 599 ราย ย้ำกทม.แหล่งระบาดใหญ่
- สธ.สั่งผู้ว่าฯรับมือ! ปชช.ไหลกลับจากกทม.เร่งทำแผนป้องกันโควิด-19 ระดับอำเภอ-หมู่บ้าน