World News

โกลด์แมนคาดศก.จีนปี 63 โตแค่ 5.5% ‘ไทย-ฮ่องกง’ เสี่ยงกระทบหนัก ‘ไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่’

สถาบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐ “โกลด์แมน แซคส์” เตือน การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะสร้างแรงกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ เพราะทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มของจีน

trrr 1

โกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่า หากการระบาดของ “เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” ลดลงอย่างมีนัยสำคัญภายในเดือนกุมภาพันธุ์ และมีนาคมนี้ จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2563 ของโลกหายไปราว 0.1-0.2% และเศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะเติบโตราว 3.25% ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 3.1% เมื่อปีที่แล้ว

แจน แฮทเซียส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์โกลแมน แซคส์ ระบุว่า การระบาดดังกล่าวกระทบต่อเศรษฐกิจระยะใกล้ค่อนข้างหนัก โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับปี 2563 ตลอดทั้งปีนั้น ขึ้นอยู่กับว่า โลกจะสามารถควบคุมเหตุการณ์นี้ได้รวดเร็วเท่าใด

ในกรณีที่การระบาดยืดเยื้อ ต้องรอจนถึงไตรมาส 2 ของปี 2563 จึงจะถึงจุดสูงสุดของสถานการณ์นั้น โกลด์แมนชี้ว่า อาจส่งผลให้จีดีพีโลกหายไปถึง 0.3%

“ในกรณีเช่นนั้น เราอาจต้องรอถึงปี 2564 กว่าจะเห็นเศรษฐกิจโลกขยายตัวอีกครั้งหนึ่ง”

ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมธนาคารสหรัฐรายนี้ คาดการณ์ด้วยว่า ความเสียหายเกือบทั้งหมดจะเกิดขึ้นภายในไตรมาสแรกของปี โดยที่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะหายไป 2% จากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงหายไป 1% และอีก 1% จากประเทศอื่นๆ

กระนั้นก็ตาม โกลด์แมน แซคส์ ชี้่ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรกนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกย่ำแย่ตลอดทั้งปี 2563

ทั้งนี้ การระบาดของเชื้อไวรัส สร้างความกังวลไปทั่วโลกตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์ และนักลงทุน พยายามอย่างหนักที่จะประเมินถึงความเสียหาย จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และบริการในจีน ที่ต้องหยุดชะงักลง และส่งผลกระทบให้ซัพพลายเชนโลกต้องติดขัดไปด้วย

แฮทเซียส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์โกลแมน แซคส์ บอกว่า นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารได้จำลองแบบผลกระทบของการระบาดต่อเศรษฐกิจโลก ด้วยการคาดการณ์ถึงความต้องการสินค้านำเข้าจากจีนที่ลดลง และนักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายในต่างประเทศลดลง ซึ่งได้ข้อสรุปถึงผลกระทบที่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อครั้งเกิดการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ในปี 2545-2546 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่กว่าในช่วงเวลานั้นอย่างมาก

แบงก์สหรัฐรายนี้ ประเมินด้วยว่า เศรษฐกิจจีนในปีนี้ จะโตลดลงเหลือแค่ 5.5% หลังเมื่อปีที่แล้วขยายตัว 6.1% พร้อมปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทย และฮ่องกง ซึ่งต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวจากจีน

“สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ทีมงานเอเชียของเรา หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงมา เพราะความเสี่ยงด้านการท่องเที่ยว และมองเห็นสัญญาณความเสี่ยงขาลงในเกาหลีใต้ และไต้หวัน จากความเสี่ยงด้านการค้า”

Avatar photo