The Bangkok Insight

สธ.ยกระดับควบคุมป้องกันโรค ประกาศคำเตือนระดับ 3 หลีกเลี่ยงเดินทางไปพื้นที่ระบาด

สาธารณสุข ยกระดับควบคุม-ป้องกันโรค สอดคล้อง WHO พร้อมประกาศคำเตือนระดับ 3 หลีกเลี่ยงเดินทางไปพื้นที่ระบาดของโรค ย้ำประชาชนป้องกันตนเอง  เผยตัวเลขเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคล่าสุด 280 ราย 

31 มค 63

กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ถึงวันที่ 31 มกราคม 2563 ณ เวลา 08.00 น. ดังนี้

1.ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ ขณะนี้นอนในโรงพยาบาล 7 ราย กลับบ้านแล้ว 7 ราย รวมสะสม 14 ราย

2. ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 -30 มกราคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวน ต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 280 ราย คัดกรองจากสนามบิน 37 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 243 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 68 ราย

ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 212 ราย โดยในวันที่ 30 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 78 ราย

3. สถานการณ์ทั่วโลกใน 20 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 – 29 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 7,803 ราย ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 30 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 7,711 ราย เสียชีวิต 170 ราย

4. ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้น ด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” งดแชร์ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ และมาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ Line@/เฟสบุ๊ค: รู้กันทันโรค,Coronavirus2019, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประชาชนสามารถตรวจสอบข่าวลวงได้ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม www.antifakenewscenter.com

ทั้งนี้ สธ.ยกระดับการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลังองค์การอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ

831113

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ให้สัมภาษณ์ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO)ได้ประกาศให้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public health Emergency of international Concern) เมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.)

เนื่องจากมีรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น และพบผู้ป่วยในหลายพื้นที่ ตลอดจนมีรายงานการติดต่อระหว่างคนสู่คนภายในประเทศ จึงเป็นเหตุผลสำคัญให้ทางองค์การอนามัยโลกได้ประกาศ เป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก

ทั้งนี้ประเทศไทย โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ยกระดับการทำงานให้สอดคล้องกับประกาศขององค์การอนามัยโลก

โดยช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 13.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ตามคำสั่งของท่านนายกรัฐมนตรี ที่ลงนามเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563  เพื่อหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และยกระดับมาตรการต่างๆ อาทิ มาตรการทางกฎหมาย มาตรการด้านการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และมาตรการในด้านการสื่อสารความเสี่ยง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางขององค์การอนามัยโลก

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) ยังได้มีการประชุมคณะกรรมการวิชาการโรคติดต่อภายใต้ พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งได้มีการหารือในประเด็นการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ตลอดจนการพิจารณาเรื่องการประกาศพื้นที่หรือเขตติดโรค

สำหรับประชาชนไทย ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศคำเตือนระดับ 3 ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดของโรค ให้ยึดหลักการป้องกันตนเอง และการดูแลสุขภาพ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” และสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในที่ชุมนุมชน อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางไปให้ที่ที่มีคนหนาแน่น

สำหรับผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า จากการตรวจคัดกรอง 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ สะสมตั้งแต่วันที่ 3 – 25 มกราคม 2563 จำนวน 137 เที่ยวบิน จำนวน 21,522 คน

วันที่ 24-30 มกราคม 2563 ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คัดกรองผู้โดยสารสายการบิน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน 114 เที่ยวบิน ผู้เดินทาง และลูกเรือได้รับการคัดกรอง จำนวน 7,604 ราย ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง

โดยนักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำสุขภาพ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค

S 27370365

ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ย้ำเตือนประชาชนหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัด

Avatar photo