Lifestyle

จับ 3 อาการยอดฮิตหน้าร้อน ‘ปวดศีรษะ-ท้องผูก-เป็นตะคริว’

อนามัยโพล เผย 3 อาการยอดฮิตหน้าร้อน ที่ประชาชนได้ผลกระทบจากความร้อนมากที่สุด ได้แก่ ปวดศีรษะ ท้องผูก เป็นตะคริว แนะประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง 

แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึง สถานการณ์ความร้อนของประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ค่าดัชนีความร้อน ช่วงวันที่ 18-27 เมษายน 2567 มีแนวโน้มอยู่ในระดับอันตรายมาก (สีแดง) 15 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี สมุทรปราการ จันทบุรี ตราด สุรินทร์ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา ยะลา นราธิวาส และกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้

หน้าร้อน

จากผลอนามัยโพลโดยกรมอนามัย เรื่อง ฤดูร้อนนี้ สุขภาพดีหรือยัง? ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม -4 เมษายน 2567 มีผู้ตอบ 682 คน พบว่า ช่วงฤดูร้อนปีนี้ประชาชนมีความกังวลว่าความร้อนจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระดับปานกลาง 52.8% และมีความกังวลมาก 19.8%

สำหรับอาการจากความร้อนที่พบ 3 อันดับแรก ได้แก่ อาการปวดศีรษะ 21.9% รองลงมา มีอาการท้องผูก 13.6% และเป็นตะคริวที่ขา แขน หรือท้อง 12.7% ตามลำดับ

ขณะที่ผลการสำรวจพฤติกรรมป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน ที่ประชาชนปฏิบัติเป็นประจำมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน พบว่า ทานอาหารปรุงสุกใหม่ถึง 93.9% รองลงมาคือ ล้างมือก่อนทาน/ทำอาหาร หรือหลังจากเข้าห้องน้ำห้องส้วม 93.8% ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ 87.8%

ส่วนพฤติกรรมที่ปฏิบัติเป็นประจำได้น้อยที่สุด ได้แก่ เช็กพยากรณ์อากาศก่อนออกจากบ้าน 56.7% อาบน้ำบ่อยขึ้นหรือหลังจากอยู่กลางแจ้ง 59.3% และอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ 63.7%

shutterstock 2337157479

ทั้งนี้ ประชาชนควรดูแลสุขภาพตนเองเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากความร้อน ได้แก่ ดื่มน้ำบ่อย ๆ โดยไม่ต้องรอให้กระหายน้ำ สวมเสื้อผ้าสีอ่อน ระบายอากาศได้ดี สวมหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด และทาครีมกันแดดเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ รวมถึงรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามสถานการณ์ค่าดัชนีความร้อนจากกรมอุตุนิยมวิทยา หากค่าดัชนีความร้อนอยู่ในระดับอันตรายหรือสีส้ม ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ในรถที่จอดตากแดดตามลำพังเด็ดขาด

ที่สำคัญ ควรสังเกตอาการตนเองและคนในครอบครัว หากเสี่ยงโรคลมร้อนหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้แก่ อุณหภูมิแกนกลางร่างกายสูงขึ้นมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ผิวหนังแดงร้อน ชีพจรเต้นเร็วและแรง ปวดศีรษะ สับสน มึนงง คลื่นไส้หรืออาเจียน หมดสติ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

หากพบผู้ป่วยโรคฮีทสโตรกให้รีบปฐมพยาบาล ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงโดยเร็ว โดยใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหลังคอ รักแร้ ขาหนีบ และนำรีบส่งโรงพยาบาล หรือโทร 1669

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo