ผู้เชี่ยวชาญรัฐบาลจีนยืนยัน ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วจีน และพบผู้ติดเชื้อใน 3 ชาติเอเชีย สามารถติตต่อจากคนสู่คนได้ ขณะองค์การอนามัยโลก (ฮู) เรียกประชุมฉุกเฉินสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเรื่องนี้
การยืนยันดังกล่าวของรัฐบาลจีนเกิดขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของจีน รายงานในวันนี้ (21 ม.ค.)ว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เสียชีวิตเป็นรายที่ 4 ขณะยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 218 คน
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งพบเป็นครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น ทำให้เกิดการตื่นตระหนกไปทั่ว เพราะเป็นเชื้อไวรัสตระกูลเดียวกับโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในจีน และฮ่องกงเกือบ 650 คน ช่วงปี 2545-2546
นายจง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจของจีน ระบุว่า ผู้ป่วย 2 คน ในมณฑลกวางตุ้ง ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่มาจากสมาชิกในครอบครัว โดยทั้ง 2 คนไม่ได้เดินทางไปเมืองอู่ฮั่น แต่ล้มป่วยเพราะติดเชื้อไวรัส หลังจากที่สมาชิกในครอบครัวเดินทางกลับมาจากเมืองดังกล่าว ขณะที่หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ รายงานว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์บางราย ตรวจพบการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ด้วย
ทางด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน แถลงเรื่องนี้ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก โดยยืนยันถึงการดำเนินการอย่างจริงจังต่อการระบาดที่เกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่น และสถานที่อื่นๆ และว่า รัฐบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ ต้องให้ความสำคัญกับชีวิต และสุขภาพของประชาชนเป็นครั้งแรก
ขณะที่ในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์นั้น ฮูประกาศเรียกประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) เพื่อพิจารณาว่าจะต้องออกคำเตือนถึงการระบาดของโรคนี้ว่าเป็นวิกฤติสาธารณสุขระดับโลกหรือไม่
ฮูมักจะออกประกาศดังกล่าวสำหรับการระบาดของโรคที่มีความรุนแรงอย่างมาก และมีแนวโน้มที่จะแพร่ระบาดข้ามพรมแดน ทั้งยังต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการรับมือ โดยการประกาศภาวะวิกฤติก่อนหน้านี้ รวมถึง การระบาดของโรคอีโบลาในคองโก และไวรัสซิกาในลาตินอเมริกา เมื่อปี 2559 นอกเหนือจากการระบาดของโรคไวรัสอีโบลา แอฟริกาตะวันตกในปี 2557
