สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (ไอดับเบิลยูเอฟ) แถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสหพันธ์ iwf.net เกี่ยวกับการละเมิดกฎการใช้สารต้องห้ามของนักกีฬาไทย โดยระบุว่า สหพันธ์ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตรวจสารต้องห้ามนานาชาติพบว่า จากการตรวจสอบนักยกน้ำหนักไทย 10 ราย ผลตรวจเป็นบวก 17 เคส ซึ่งทั้งหมดถูกลงโทษห้ามแข่งขันเป็นระยะเวลาระหว่าง 18 เดือนถึง 4 ปี
ซึ่งผลการตรวจดังกล่าวสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ IWF ที่ต่อต้านปัญหาการใช้สารต้องห้ามที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.iwf.net/anti-doping/sanctions/
สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติระบุด้วยว่าผลการสุ่มตรวจการใช้สารต้องห้ามตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมาจากข้อมูลด้านบนปรากฏว่าพบนักกีฬาไทยไม่ผ่านการตรวจและโดนแบนหลายคน ในจำนวนนี้บางคนเป็นนักกีฬาระดับเยาวชน สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จึงขอถอนตัวจากการแข่งขันรายการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2019 ซึ่งเป็นการคัดเลือกโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยทำให้นักยกน้ำหนักไทยจะไม่ได้ร่วมแข่งขันโตเกียวเกมส์อย่างแน่นอน
สหพันธ์ยังพบว่า ผลการตรวจตัวอย่างย้อนหลังพบว่านักยกน้ำหนักเยาวชนไทย 1 ราย ที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันยูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ทำผิดกฎเรื่องโด๊ปยาเช่นกัน จากการที่นักกีฬาไทยถูกตรวจพบว่าใช้สารต้องห้ามจำนวนมากนี้ ทางคณะทำงานพิจารณาลงโทษจะพิจารณาลงโทษสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ต่อไป
นอกจากนี้ สหพันธ์ยังระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม สถานีโทรทัศน์ ARD ของเยอรมนี ได้นำเสนอว่า รัตติกาล กุลน้อย อดีตนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย เผยว่า ทั้งตนและนักยกน้ำหนักไทยหลายรายใช้สารต้องห้าม ทางสหพันธ์จึงได้ประสานขอข้อมูลทั้งหมดจาก ARD รวมถึงติดต่อสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป
สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติยังระบุ ทิ้งท้ายว่าจากการตรวจพบนักกีฬาไทยใช้สารอนาบอลิกสเตียรอยด์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬาเยาวชน สหพันธ์จะหารือกับWADA และ สำนักงานตรวจสารต้องห้ามนานาชาติเพื่อสอบสวนเรื่องนี้อีกครั้งและอาจนำไปสู่การลงโทษเพิ่มเติมสำหรับนักกีฬาที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลจาก : www.iwf.net/2020/01/06/iwf-follow-widespread-doping-among-thai-athletes/
