Branding

โธธ โซเชียล โอบีว็อค รีแบรนด์สู่ ‘ไวซ์ไซท์’พร้อมรุกตลาด APAC

Wisesight
นายกล้า ตั้งสุวรรณ (ซ้าย) และนายพเนิน อัศววิภาส สองผู้บริหารจากไวซ์ไซท์

ในช่วงเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณี 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง นอกจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันแล้ว ในแวดวงข่าวสารต้องบอกว่ามีชื่อของ “โธธ โซเชียล โอบีว็อค” (Thoth Zocial OBVOC) ในฐานะผู้รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลบนโลกออนไลน์จากสถานการณ์ดังกล่าวปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งล่าสุด ทางบริษัทได้ออกมาประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่จากชื่อเดิมไปสู่ “ไวซ์ไซท์” (WISESIGHT) รวมถึงเปิดเผยทิศทางธุรกิจหลังจากนี้ กับการก้าวออกไปสู่การเป็นผู้วิเคราะห์ข้อมูลระดับเอเชียแปซิฟิกนายกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ จำกัด เผยว่า แผนการรุกตลาดเอเชียแปซิฟิกนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งแนวทางของบริษัทในการเลือกว่าจะไปบุกประเทศใดนั้น มีเกณฑ์ในการพิจารณา 3 ข้อ นั่นคือ ต้องสามารถลงทุนเองได้ ต้องมีตลาดรองรับ และต้องเป็นประเทศที่มีความท้าทายด้านภาษา

ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงมีการเปิด Regional Hub ขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการระดับภูมิภาค เนื่องจากเข้าเกณฑ์ทั้ง 3 ข้ออย่างครบถ้วน โดยเฉพาะในด้านภาษา ที่มาเลเซียมีการใช้ทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษามาลายู อีกทั้งจำนวนประชากรก็ยังสูงมากด้วย

สำหรับจุดแข็งของไวซ์ไซท์ที่จะไปบุกตลาดนอกประเทศตามการเปิดเผยของนายกล้านั้น มาจาก 3 ด้าน นั่นคือการมีแหล่งข้อมูลโซเชียลมีเดียระดับท้องถิ่นในประเทศต่าง ๆ เป็นของตัวเอง ซึ่งในจุดนี้ นายกล้ากล่าวว่า ค่อนข้างแตกต่างจากเครื่องมือของโลกตะวันตกที่เน้นจับข้อมูลโซเชียลมีเดียจากแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่เช่น เฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์เป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทย ที่ไวซ์ไซท์ มีการดึงข้อมูลของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับท้องถิ่นอย่าง Pantip.com เข้ามาประมวลผลด้วย ซึ่งหากเครื่องมือจากต่างชาติไม่ได้ทำในส่วนนี้ก็จะไม่ได้อินไซต์ดังกล่าว

ข้อต่อมาคือเรื่องของภาษา ที่ประเทศในแถบนี้มีการใช้งานที่แตกต่างกัน และแต่ละภาษาก็มีความซับซ้อนต่างกัน โดยนายกล้าเผยว่า ระบบของไวซ์ไซท์รองรับภาษาหลักที่ใช้กันในเอเชียแปซิฟิกได้ทั้งหมดแล้ว จึงทำให้โอกาสในการบุกตลาดเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

ประการสุดท้ายที่คาดว่าเป็นจุดแข็งของระบบก็คือเรื่องของวัฒนธรรรมท้องถิ่นที่จะมีการจ้างคนจากประเทศนั้นจริง ๆ เพื่อให้ได้คนที่เข้าใจ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ตามบริบทที่ควรจะเป็น

เปิดไวซ์ไซท์ อะคาเดมี่

สำหรับบริการที่จะตามมาในชื่อไวซ์ไซท์นั้น ทางบริษัทเผยว่า ประกอบด้วย 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่

  • ไวซ์ไซท์อินไซต์ เครื่องมือในการวิเคราะห์ตลาด
  • ไวซ์ไซท์ซีอาร์เอ็ม เครื่องมือด้าน CRM สำหรับสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้บริโภค
  • ไวซ์ไซท์คอนเวอร์ชั่น เครื่องมือวิเคราะห์ความต้องการเชิงลึกแบบรายบุคคล
  • ไวซ์ไซท์ อะคาเดมี่ ศูนย์ฝึกอบรมด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย รวมถึงการใช้เครื่องมือต่าง ๆ โดยร่วมมือกับ Binary ของนายสุพลชัย กีรติขจร อดีตพนักงานอันดับที่ 2 ของเฟซบุ๊ก ประเทศไทยมาเป็นผู้ให้การอบรม

สำหรับแผนการรุกตลาดว่าจะบุกไปประเทศใดบ้างนั้น นายพเนิน อัศววิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการเผยว่า มีวางแผนไว้สองพื้นที่หลัก ๆ นั่นคือ ฮ่องกง และอินโดนีเซีย ส่วนประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น นายพเนินเผยว่า ทั้งเวียดนาม กัมพูชา เมียนมาร์ ฯลฯ เป็นประเทศที่อยู่ระหว่างการศึกษาทั้งสิ้น เนื่องจากล้วนเป็นประเทศที่มีการเติบโตด้านผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว

Avatar photo