ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (10 ต.ค.) ฟื้นขึ้นมาอยู่ในแดนบวก ท่ามกลางความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ที่ยังเกาะติดตลาดอยู่ หลังหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า การเจรจาระดับรัฐมนตรีช่วยระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งเป็นการปูทางสู่การเจรจาระดับรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ ยังไม่มีความคืบหน้าในประเด็นที่สำคัญ
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดบวก 99.29 จุด หรือ 0.46% ที่ 21,555.67 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงขยับขึ้น 59.60 จุด หรือ 0.23% ที่ 25,742.41 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ บวก 9.30 จุด หรือ 0.32% ที่ 2,934.15 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ขยับขึ้นมา 0.63 จุด หรือ 0.02% ที่ 3,090.53 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) ที่ 26,346.01 จุด เพิ่มขึ้น 181.97 จุด หรือ 0.70% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,919.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.34 จุด หรือ 0.91% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 7,903.74 จุด เพิ่มขึ้น 79.96 จุด หรือ 1.02%
ตลาดได้แรงช้อนซื้อเก็งกำไร ช่วยหนุนให้ดัชนีขยับขึ้น หลังมีรายงานว่า จีนพร้อมที่จะทำข้อตกลงการค้าบางส่วนกับสหรัฐ และจะเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกที่ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า การเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายจะมีความคืบหน้า
นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนนี้ หลังจากรายงานการประชุมในเดือนกันยายนบ่งชี้ว่า กรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ขาขึ้นยังโดนสกัดจากรายงานของ เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ที่บอกว่า ระหว่างการเจรจาเมื่อวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา ที่กรุงวอชิงตันนั้น จีนได้ปฏิเสธที่จะเจรจาเกี่ยวกับการบังคับให้มีการถ่ายโอนเทคโนโลยี ซึ่งเป็นประเด็นที่สหรัฐข้องใจในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของจีน
แหล่งข่าวยังเปิดเผยกับเซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ว่า การเจรจายังมีการพูดถึงประเด็นการให้เงินอุดหนุนของภาครัฐ ซึ่งคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทจีนมีข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันในตลาดโลกอย่างไม่เป็นธรรม
