“สนธิรัตน์” ยันกฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจีได้ปลายปี ขอเคาะกบง.สรุปแนวทางแก้ปัญหา Take or Pay หลังกกพ.เสนอ 2 แนวทางแก้ไข ให้กฟผ.เจรจาลดนำเข้า-ขายส่วนเกินให้ผู้ใช้รายอื่น พร้อมประสานศอ.บต.เหตุมีโครงการโรงไฟฟ้าจะนะ ชนแผนพีดีพี
สำหรับการเดินหน้าทำงานของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีหลายเรื่องที่กำลังให้เขาสรุป เรื่องสำคัญ ก็คือ การแก้ปัญหานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 1.5 ล้านตัน ที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายก่อนหน้านี้ ให้นำร่องนำเข้าแอลเอ็นจีเสรี แต่พบว่ามีภาระ Take or Pay หรือต้องจ่ายเงินแม้ไม่ได้ใช้แอลเอ็นจีเกิดขึ้น สาเหตุนำเข้ามาชนกับแอลเอ็นจีของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่มีสัญญาซื้อแอลเอ็นจีระยะยาวไว้แล้ว
เรื่องนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้นำแนวทางแก้ไข เสนอนายสนธิรัตน์แล้ว โดยเขา ระบุว่า ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)เพื่อพิจารณา จึงจะบอกรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้มีคำตอบแล้ว กฟผ.สามารถนำเข้าแอลเอ็นจีได้ภายในปลายปีนี้แน่นอน
โดยก่อนหน้านี้ นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกกพ.ได้ออกมาระบุว่า ได้หารือกับกฟผ.และปตท.แล้ว ได้ข้อสรุปว่า การนำเข้าแอลเอ็นจีของกฟผ.จะไม่ส่งผลให้เกิดปัญหา Take or Pay เพราะเกิดปัญหาขึ้นเฉพาะปี 2563 ที่แอลเอ็นจีจะล้นระบบ
นายเสมอใจ ยังอธิบายอีกว่า หากมีการบริหารจัดการที่ดีก็จะไม่มีปัญหา โดยให้กฟผ.ปรับลดการนำเข้าแอลเอ็นจี หรือนำส่วนเกินไปจำหน่ายต่อให้กับผู้ใช้ก๊าซรายอื่น โดยให้ปตท.ช่วยประสานในเรื่องการขายให้ เพราะสัญญาการนำเข้าแอลเอ็นจีที่กฟผ.ดำเนินการ กับผู้นำเข้าเป็นสัญญาแบบยืดหยุ่น ไม่ได้กำหนดปริมาณแน่นอน หรือ อยู่ระหว่าง 8 แสน ถึง 1.5 ล้านตัน
สำหรับการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือ พีดีพี 2018 ยืนยันว่าพีดีพีสามารถเปลี่ยนตามกรอบเวลาได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์พลังงาน ที่เปลี่ยนไป และการปรับครั้งนี้ พลังงานหมุนเวียนต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งโซลาร์เซลล์ หรือก๊าซชีวภาพ โดยจะสนับสนุนให้เกิดไฟฟ้าชุมชนไปพร้อมกัน แต่ต้องดูความพร้อมของชุมชน เช่น ต้องมีสายส่งผ่าน เป็นต้น
ส่วนข้อจำกัดเรื่องการลงทุนนั้น ชุมชนไหนไม่พร้อม จะส่งเสริมให้เอกชนมาร่วมลงทุนในโรงไฟฟ้าชุมชน เชื่อว่าโครงการเดินหน้าได้เป็นรูปธรรมแน่นอน
ขณะเดียวกันจะส่งเสริมสตาร์ทอัพพลังงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เพราะโลกเปลี่ยนเร็วมาก นายสนธิรัตน์ ยังระบุว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะมามอบนโยบายกระทรวงพลังงาน ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้
นายสนธิรัตน์ ยังได้กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ที่เห็นชอบโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ที่อำเภอจะนะ จังหว้ดสงขลา ปี 2562-2566 ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต)เสนอ
โดยจะมีการวางแผนและลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้า หรือพลังงานไฟฟ้าทางเลือก (Energy Complex) ว่า ได้รับทราบถึงมติดังกล่าว ในเบื้องต้นจะต้องมีการหารือร่วมกัน เพื่อประสานแผนดังกล่าวให้สอดคล้องกับแผนพีดีพี 2018
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ที่อำเภอจะนะ จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 2,800 เมกะวัตต์ ซึ่งยังไม่มีการประสานแผนกับกระทรวงพลังงานมาก่อน ขณะที่แผนพีดีพี มีโครงการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่รองรับความต้องการในภาคใต้อยู่แล้วที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการโดยกฟผ. ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง 2 หน่วย รวม 1,400 เมกะวัตต์ เข้าระบบปี 2570 และ 2572 ดังนั้นคาดว่าหลังประสานแแผนแล้ว จะต้องมีโครงการหนึ่งต้องปิดไป
