ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่จากจีนที่น่าจับตามอง ถึงกลยุทธ์การขยายตลาดในระดับเอเชียและระดับโลก สำหรับ บริษัท อินเนอร์ มองโกเลีย อีลี อินดัส เทรียล กรุ๊ป หรือ “อีลี่กรุ๊ป” โดยเฉพาะการลุยซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับอาหารและเครื่องดื่มที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์นม นอกประเทศจีน เพื่อผงาดในอุตสาหกรรมนมระดับโลก
เห็นได้จากล่าสุด บริษัท ฮ่องกง จินกัง เทรด โฮลดิง จำกัด ในเครือ อีลี่กรุ๊ป ได้เข้าซื้อกิจการบริษัทสหกรณ์โคนมเวสต์แลนด์ (Westland Co-operative Dairy Company Limited (Westland)) ซึ่งเป็นสหกรณ์โคนมขนาดใหญ่อันดับสองของนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การซื้อสหกรณ์โคนมเวสต์แลนด์ให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอีลี่ กรุ๊ป จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตทั่วโลกของบริษัท พร้อมจัดหาผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมี่ยมเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเป็นการผลักดัน “Global Health Ecosystem” ระบบนิเวศด้านสุขภาพของโลก ซึ่งนำเสนอโดยนายผาน กัง ประธานของอีลี่ ที่ต้องการปฏิรูปอุตสาหกรรมนมด้วยแนวคิด “World Integrally Sharing Health”
นายจาง เจียนฉิว ซีอีโอของอีลี่ กรุ๊ป กล่าวว่า การซื้อกิจการครั้งนี้เป็นการผสมผสานคุณภาพ เทคโนโลยี ทรัพยากร และตลาดเข้าด้วยกัน และนับเป็นหมุดหมายที่สำคัญสำหรับเส้นทาง “Dairy Silk Road” ตลอดจนการสร้างสะพาน “Dairy Bridge” ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก และการปฏิรูปอุตสาหกรรมนม
นอกจากการซื้อกิจการสหกรณ์โคนมเวสต์แลนด์ ในนิวซีแลนด์ก่อนหน้านี้ อีลี่กรุ๊ป ยังเดินหน้าไล่ซื้อกิจการมาแล้วหลายประเทศ รวมถึงการลงทุนและร่วมมือกับอุตสาหกรรมนมหลายประเทศ ทั้งในสหรัฐ โอเชียเนีย และเอเชีย โดยในสหรัฐ อีลี่ กรุ๊ป เป็นผู้นำในการดำเนินการ “Sino-US Food Wisdom Valley” ร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ในโอเชียเนีย อีลี่ กรุ๊ป ได้ลงทุน 3,000 ล้านหยวนในการสร้าง Yili Oceania Production Base ซึ่งเป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์นมครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้ ในปี 2561 อีลี่ กรุ๊ป ยังได้ยกระดับศูนย์นวัตกรรมยุโรป ด้วยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยวาเกนนิงเกน (Wageningen University) ใน Global Dairy Mount Everest หลังจากนั้น ได้นำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายในตลาดอินโดนีเซีย ตามด้วยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เข้าซื้อกิจการบริษัท จอมธนา ผู้จัดจำหน่ายไอศกรีม “ครีโม” และอาหารแช่แข็งรายสำคัญของไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่า 2,600 ล้านบาท เพื่อเป็นประตูรุกตลาดไทยและอาเซียน
ก้าวเดินของอีลี่กรุ๊ป สะท้อนชัดเจนถึงการวางยุทธศาสตร์เติบโตนอกประเทศจีน โดยไม่ได้มุ่งเป้าเพียงเอเชีย แต่วางเป้าหมายรุกตลาดทั่วโลก โดยใช้ยุทธศาสตร์การเทคโอเวอร์หรือซื้อกิจการเป็นหลัก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการซื้อกิจการที่ดำเนินการอยู่แล้วและมีการผลิตพร้อม เพื่อให้สามารถรุกตลาดได้ต่อเนื่องทันที
ที่สำคัญคือ การสั่งสมความสำเร็จในระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง จะเป็นการส่งเสริมอิทธิพลของอีลี่ในอุตสาหกรรมนมระดับโลก และนับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จสำหรับบริษัทจีนในการก้าวออกไปสู่ตลาดโลก
ปัจจุบัน อีลี่กรุ๊ปเป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ของจีน ที่มีสินค้าครบวงจร ทั้งนมสด, นมสเตอริไลซ์, ชีส, ไอศกรีม และอื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ “อีลี่” โดยไตรมาส 3 ปี 2561 มีรายได้ถึง 6.13 หมื่นล้านหยวน หรือประมาณ 2.88 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโต 16.88% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีกำไร 5 พันล้านหยวน หรือ 2.35 หมื่นล้านบาท
ทั้งหมดนี้ และก้าวต่อไป เป็นไปตามนโยบายของ นายผาน กัง ประธานอีลี่ กรุ๊ป ที่มองว่า ธุรกิจต่างๆ ควรรวบรวมพลังงานทั่วโลก ยืนหยัดในการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และใช้ทรัพยากรคุณภาพสูงจากทั่วโลกเพื่อให้บริการผู้บริโภคให้ดีขึ้น โดย อีลี่ กรุ๊ป ยึดแนวคิด “เปิดกว้าง ร่วมมือ ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” รวมทั้งเป้าหมาย “การทำให้ทั่วโลกมีสุขภาพแข็งแรง'”
