ซีอีโอหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ “เริน เจิ้งเฟย” คาด ยอดขายของบริษัทอาจร่วงลงมาอยู่ที่ประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ และปีหน้า จากการที่ธุรกิจโดนกดดันอย่างหนัก เพราะการคว่ำบาตรจากสหรัฐ
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนรายนี้ รายงานรายได้อยู่ที่ 104,160 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึง 19.5%
ระหว่างการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสหรัฐ 2 ราย ที่สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ย ในเมืองเสิ่นเจิ้น นั้น นายเริน ยังคาดการณ์ว่า ธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2564 พร้อมเสริมว่า หัวเว่ยจะไม่ลดงบประมาณในการวิจัย และพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินของบริษัทก็ตาม
การเปิดเผยดังกล่าว มีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) บลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า หัวเว่ย กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับยอดขายในต่างประเทศที่อาจร่วงลงราว 40-60% จากการที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย ห้ามบริษัทอเมริกันทำธุรกิจด้วย หากไม่ได้รับอนุญาตจากทางการก่อน
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า หัวเว่ย กำลังดำเนินการประเมินเป็นการภายใน และหาทางเลือกอื่นๆ รวมถึง การถอน “ออนเนอร์ 20” สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ของแบรนด์ออนเนอร์ ในเครือหัวเว่ย ออกจากตลาด หากยอดขายหลังการวางจำหน่ายในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ในพื้นที่บางส่วนในยุโรป รวมถึง ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักรไม่คึกคัก
ผู้จัดการฝ่ายขาย และฝ่ายการตลาดของหัวเว่ย ประเมินว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนของบริษัทน่าจะร่วงลงราว 40-60 ล้านเครื่องในปีนี้ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนค่อนข้างมากสำหรับธุรกิจในต่างประเทศของบริษัท ที่เมื่อปี 2561ครองส่วนแบ่งเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายสมาร์ทโฟน 206 ล้านเครื่องทั่วโลก
นักวิเคราะห์ชี้ด้วยว่า การประเมินตัวเลขด้วยช่วงห่างที่กว้างขนาดนี้ เน้นให้เห็นถึงภาวะไร้เสถียรภาพที่เกาะติดหัวเว่ยอยู่
