พาไปเยอะนะ พี่ไหวเหรอ #amazingไทยเท่
บอกเลยว่า จะพาเที่ยวแบบจุกๆ เน้นๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวและจุดที่น่าสนใจต่างๆรอบเมือง “ระนอง” เมืองรองสองไมตรี พยามไปให้สุด มุดทุกซอก ลอดทุกมุม คุ้มเกินกว่าจะบรรยาย ถ้าพร้อมก็ ไปลุยกันเลยจ้ะพี่จ๋า !!
The Blue Sky Resort
หากต้องการสร้างความประทับใจและบรรยากาศพิเศษให้กับคนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว หรือมาเป็นแก๊งค์ ต้องที่นี่เท่านั้นค่ะ บอกเลยว่าไม่เหมือนที่ไหนในเกาะพยามแน่นอน ที่นี่มีชื่อว่า The Blue Sky Resort (เดอะ บลูสกาย รีสอร์ท)
The Blue Sky Resort เป็นเหมือนอาณาจักรย่อมๆที่ชวนเราให้ต้องมนต์ จนลืมโลกภายนอกกันไปเลยค่ะ เริ่มจากทางเข้ารีสอร์ทเป็นสะพานเล็กๆทอดยาวมาสู่ดินแดนแห่งนี้ ทางด้านซ้ายของสะพานจะเป็นหาดทราย ที่มีน้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋ว ต้องขอเน้นว่าน้ำใสมากจริงๆค่ะ ส่วนทางด้านขวาจะสังเกตเห็นบ้านพักกลางน้ำ และต้นโกงกาง เรียงรายเป็นทิว ดีต่อสายตาและหัวใจสุดๆให้ความรู้สึกเหมือนอยู่มัลดีฟเลยค่ะ
พอเข้ามาถึงด้านใน The Blue Sky Resort แล้ว สามารถจำแนกโซนได้ดังนี้
- โซนต้อนรับ ประกอบด้วยรีเซฟชั่น ห้องอาหาร และ จุดขายของฝาก
- โซนที่พัก ประกอบด้วย บ้านพักกลางน้ำ และบ้านพักส่วนตัวแบบไพรเวท(อยู่บนบก) ราคาตั้งแต่ 7000-9000 บาทค่ะ
- โซนกิจกรรมและการพักผ่อน ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ จุดกิจกรรมปั่นจักรยาน พายเรือคายัค และสามารถว่ายน้ำทะเลในโซนป่าโกงกางได้
ซึ่งผู้เข้าพักอาศัย สามารถเข้าร่วมได้ทุกกิจกรรมโดยไม่มีเงื่อนไขใดใดค่ะ และอีกหนึ่งความพิเศษของที่นี่ คือ ที่นี่มีนากทะเล และนกเงือกด้วยค่ะ โดยสัตว์เหล่านี้อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ถ้าโชคดี พวกเขาจะออกมาทักทายเรานะ
หินทะลุ อ่าวเขาควาย
ที่นี่เหมาะมากกับการเป็นโม
ความสวยของที่นี่ คือช่องหินหรือซุ้มหินที่มี
หากไปช่วงเย็นๆ น้ำที่ลดลงจะทำให้เราเห็นหอ
วัดเกาะพยาม
มาถึงที่นี่ช่วงประมาณหกโมงเช้ากว่าๆเห็นจะได้ ซึ่งเป็นเวลาที่พระสงฆ์ออกบิณฑบาตรกัน ในวัดจึงเงียบสงบมากๆ
จุดที่สังเกตได้ชัดเจนคือสะพานทอดยาวไปสู่อุโบสถกลางน้ำ “อุทกกเขปสีมา” ชื่อนี้หมายถึง โบสถ์กลางน้ำที่พระพุทธเจ้าเคยกล่าวถึงพุทธกาล ภายในอุโบสถเหมาะอย่างยิ่งที่จะเข้าไปกราบไหว้ และนั่งทำสมาธิให้จิตใจสงบ
โดยรวม วัดนี้ยังถือว่าสร้างไม่เสร็จดีนัก และยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องการปรับปรุงซ่อมแซม ทางเราเลยลองหาข้อมูลในส่วนนี้มาเผื่อใครสนใจร่วมทำบุญกับทางวัดนะคะ
บัญชีพระนิคมสิริภัทโท เลขที่บัญชี 291-0-26889-1 บัญชีสะสมทรัพย์ สาขาระนอง หรือ ต้องการเดินทางไปร่วมสร้างบุญกับทางวัดก็ได้เช่นกันค่ะ
ไอติมโฮมเมด ร้าน Koh-Co by พี่หนึ่ง
มองเผินๆ รถขายไอติมเรกเก้คันนี้ อาจดูเหมือนรถขายไอติมทั่วไ
ไอติมกะทิสดร้านนี้ เป็นไอติมโฮมเมด ทำเองทุกขั้นตอน และไม่มีส่วนผสมของนมเลย เนื่องจากพี่หนึ่งบอกว่า ลูกค้าบางคนแพ้นมวัว และวัตถุดิบบางอย่างของไอติ
ในส่วนของเมนูก็ง่ายๆเลย เป็นไอติมตักที่มีทั้งแบบใส
ใครอยากลองต้องคอยสังเกตรถพ
ร้านอาหาร ชาวเกาะซีฟู๊ด
หากกำลังมองหาร้านอาหารในเกาะพยาม ที่ตั้งอยู่ริมหาด บรรยากาศสบาย พร้อมอาหารทะเลสดๆ ต้องมาที่ชาวเกาะซีฟูดเลยค่ะ
ร้านชาวเกาะซีฟูด มีเมนูเลื่องชื่ออยู่หลายรายการด้วยกัน ได้แก่ ปูผัดผงกระหรี่ กุ้งซอสมะขาม ปูนึ่ง ปลากะพงราดน้ำปลา แกงเหลืองหน่อไม้ ปลาหมึกกระดองย่าง แต่เมนูพิเศษสุด ที่เป็นอาหารถิ่นไฮไลท์ของทางร้านและมีเฉพาะฤดูกาลเท่านั้น คงหนีไม่พ้นเมนูสะตอ ซึ่งเราจะนำเสนอ 2 เมนูเด็ดได้แก่ สะตอย่างน้ำพริกกะปิ และ สะตอผัดกะปิ
สะตอที่ทางร้านใช้นี้ เป็นผลผลิตจากสวนสะตอในเกาะพยาม เลี้ยงธรรมชาติ ไม่ใส่ยาเร่งผลผลิต และสายพันธุ์นี้ได้รับการการันตีว่า ไม่มีแมลงกัดกิน และศัตรูพืชรบกวน จึงมั่นใจได้ว่า สะตอจะมีความสด สะอาดและปลอดภัยแน่นอน นอกจากนี้สะตอยังมีประโยชน์ ช่วยขับลมในลำไส้ ทำให้อยากอาหาร แก้ปัสสาวะพิการ ไตพิการ ได้
ส่วนกะปิที่ใช้ เป็นกะปิกุ้งเคย ที่ผลิตในจังหวัดระนอง ที่ทั้งหอม และเค็มๆมันๆแบบพอดี เป็นของดีประจำจังหวัดระนอง ที่ใครมาก็ต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก
สะตอผัดกะปิ วัตถุดิบหลักจานนี้จะมีสะตอ กุ้งสด กะปิและหมูสับ นำมาผัดให้เข้ากันพร้อมปรุงรส รสชาติของสะตอไม่ฉุนหรือกลิ่นแรงอย่างที่คิด ทุกอย่างในจานตักกินพร้อมกัน มันเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ทำให้อยากกินคำต่อไปเรื่อยๆ จัดว่าเด็ดถึงเด็ดมากเลยทีเดียว
สะตอย่างน้ำพริกกะปิ อย่างบอกว่าอันนี้คือดีมาก อย่างสะตอที่นำไปย่างไฟอ่อนๆแล้วนำมาทานเล่น ก็ถือว่าดีอยู่แล้ว และยิ่งทานคู่กับน้ำพริกกะปิสูตรเฉพาะของระนอง ที่ทำออกมาได้ดุเด็ดเผ็ดมันในคำเดียว คือเข้ากันมาก แม้ว่าจะเผ็ดมาก แต่เราก็ไม่ลดความพยายามที่อยากจะทานต่อ เมนูนี้ถ้าเอาไปเป็นของฝากได้ จะเป็นอะไรที่ดีมากๆ
สำหรับใครที่ได้อ่านข้อมูลจนถึงบรรทัดนาทีทองนี้ เตรียมแคปจอไว้เลยค่ะ เพียงคุณเข้าใช้บริการที่ร้านชาวเกาะซีฟู๊ด จะแจ้งทางร้านว่ามาจากเพจ Fighting Duo ทางร้านมอบส่วนลดให้ทันทีลด 20% สำหรับ10 บิลแรก จากนั้นจะได้รับส่วนลด 10% ไม่จำกัดจำนวน หากรู้อย่างนี้แล้ว พุ่งตัวไปกันไวๆเลยนะจ๊ะพี่
ร้านชายคลองโฮมสเตย์ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ มะป้อม
ถ้าข้ามสะพานออกมาจาก The Blue Sky Resort ให้ขับมอเตอร์ไซค์ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตฝั่งซ้ายมือจะเห็นร้านเย็นตาโฟ ซึ่งก่อนมาร้านนี้ ได้รับคำแนะนำจากคนพื้นที่หลายคนเลยว่า ต้องมาที่นี่ให้ได้
พอมาถึงก็สั่งตามปกติไม่ได้คาดหวังอะไร กินปุ๊บ! รู้เรื่องเลยว่าพรุ่งนี้จะต้องมาซ้ำอีกแน่นอน และปกติแล้วเวลาทานก๋วยเตี๋ยวที่อื่น จะเป็นคนติดปรุงรส แต่ของที่นี่ไม่ต้องเลยค่ะ เพราะดีในแบบที่เป็นอยู่แล้ว บวกกับเนื้อสัตว์ในชาม มีปลาหมึก หมู แมงกระพรุน (พี่คนขายบอกว่าปกติมีกุ้งให้ด้วยแต่ตอนนี้หมด) ที่เหมือนว่า กินเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที คือ ได้เยอะมากกว่าที่คาดหวังไว้มาก เอาไปเลย สิบสิบ
ราคา 60-180 บาท ท็อปสุดคงอิ่มไปถึงพบหน้าเลย
มะม่วงหิมพานต์บ้านฐิติรัตน์
ที่นี่เป็นแหล่งผลิตเม็ด มะม่วงหิมพานต์เจ้าใหญ่ที่สุดบนเกาะพยาม เดิมทีพี่เจ้าของเป็นชาวร้อยเอ็ด มาเยือนเกาะพยามแล้วรู้สึกหลงไหลที่นี่เพราะ เงียบสงบ ระบบนิเวศน์ดี จึงตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ที่เกาะพยาม และบุกเบิกเรื่องการทำเม็ดมะม่วงหิมพานต์อย่างจริงจัง
ส่วนน้องๆ ที่ทำงานที่บ้านฐิติรัตน์นี้ ส่วนใหญ่ เป็นสาวพม่า ปะแป้งทานาคา นั่งโต๊ะแกะเม็ดมะม่วง พูดอะไรกันก็ไม่รู้ แต่เห็นแล้วน่ารักดี ชวนให้อมยิ้มตาม (มีนอกเรื่องไปชมสาวด้วย)
กลับมาในส่วนของขั้นตอนการผลิตเม็ดมะม่วงพร้อมทาน ถือว่าเยอะพอสมควร โดยวิธีการแบบละเอียดมีดังนี้
- เริ่มจากเก็บเม็ดมะม่วงตามต้น
- นำมาแยกคัดเม็ด(แกะเม็ด)
- แยกเม็ดเรียบร้อย นำเม็ดมะม่วงไปตากแดด 7-10 วัน
- เมื่อตากแดดเสร็จ นำมาต้ม
- ตากแดดอีกครั้ง 7-10 วัน
- นำเม็ดมะม่วงไปอบ 4 ชั่วโมง ทำแบบนี้ 3 วัน
- นำมะม่วงหิมพานต์มาคั่ว 1 กระทะคั่วมือโดยผสมข้าวสาร ใช้เวลาคั่ว 2 ชั่วโมงครึ่ง
- นำมาผึ่งลม และใส่บรรจุภัณฑ์
จากที่ไม่เคยทราบขั้นตอนการทำ เรามักจะคิดว่าเม็ดมะม่วงหิมพานต์ราคาแพงมาก แต่พอได้เข้ามาสัมผัสการผลิตแต่ละขั้นตอน รู้เลยว่า ราคาแบบนี้เหมาะสมแล้ว 100-450 บาท นี่โอเคเลยนะ สัญญาต่อหน้าเม็ดมะม่วงว่าจะไม่ไปต่อราคาที่ไหนอีก
ระหว่างคุยกัน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่คั่วอยู่ในกระทะสุกได้ที่พอดี เลยมีโอกาสได้ชิมแบบสดๆ รสนี้คือใช่ และไม่เหมือนที่เคยเจอมาก่อน ใครชอบแล้วได้ชิม บอกเลยว่าต้องมีซื้อตุนชัวร์
บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน
บ่อน้ำพุแห่งนี้ เป็นบ่อน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยได้รับการวิเคราะห์จากกรมวิทยา ว่าเป็นบ่อน้ำพุเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีศาลกำมะถันเจือปน จึงเป็นน้ำบริสุทธิ์ และสามารถตักดื่มกินได้จากแหล่งกำเนิด
บ่อน้ำพุร้อนที่นี่ มีต้นกำเนิดจากแหล่งธรรมชาติ 3 บ่อ มีชื่อเรียกต่างกันออกไปได้แก่ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว โดยทั้งหมดนี้จะมีอุณหภูมิ 65 องศาเท่ากันทุกบ่อ และสวนสาธารณะได้ทำบ่ออเนกประสงค์ โดยทำบ่อขึ้นทับทางผ่านของน้ำ และน้ำจะมีอุณหภูมิแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความใกล้ของต้นกำเนิดน้ำ
บ่ออเนกประสงค์นี้ มีบริการให้สำหรับผู้คนเดินทางมาแช่เท้าเพื่อผ่อนคลาย แต่หากต้องการแช่อาบน้ำร้อนทั้งตัว ที่นี่ก็จะมีบริการโซนพิเศษ เสียค่าบริการ 40 บาท สามารถเข้าไปอาบได้โดยไม่จำกัดเวลา เปิดให้บริการตั้งแต่ 07:00 – 21:00 น.
บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง
เป็นบ่อน้ำแร่ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ที่ ภายหลังได้สร้างบ่อปูนซีเมนต์เพิ่มเติม เพื่อให้ผู้คนได้มาอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนกัน ถัดเข้ามาด้านใน จะเป็นธารน้ำตก ที่มีปลาพวงอยู่อาศัยจำนวนมาก โดยเราสามารถเอาเท้าแช่น้ำ และปลาจะมาตอด เป็นการทำสปาเท้าที่เพลินมาก ทำสปาเสร็จแล้ว อย่าลืมขอบคุณน้องปลาเหล่านั้นด้วยนะ
ราคาค่าเข้าใช้บริการบ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง ชำระค่าบริการคนละ 20 บาท และค่ารถคันละ 30 บาท
ศาลหลักเมืองระนอง
ศาลหลักเมืองระนอง ตั้งอยู่ที่ตำบลเขานิเวศน์ มีลักษณะเป็นศาลาจัตุรมุขทรงไทย มียอดศาลาตามลักษณะภูมิสถาปัตย์พระธาตุไชยาจำนวนห้ายอด ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จะมีการบวงสรวงโดยพราหมณ์ จากสำนักพระราชวังเป็นผู้ประกอบพิธี และในวันนี้เอง ชาวจังหวัดระนองมักจะเดินทางมาสักการะบูชาศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตตนเองและครอบครัว
หมายเหตุเล็กๆ ที่นี่ไม่มีดอกไม้ธูปเทียนขายนะคะ สามารถแวะซื้อก่อนถึงศาลหลักเมือง หรือไหว้มือเปล่าโดยอธิษฐานจิตก็ได้เช่นกันค่ะ
บ้านไร่ไออรุณ
พอเข้ามาถึงที่นี่ พินิจพิเคราะห์ในรายละเอียด
ด้านหน้าสุดจะเป็นล็อบบี้ สำหรับเช็คอินที่พัก และสามารถสั่งอาหารและเครื่
นอกจากนี้ยังมี ธารน้ำตกเล็กๆ สวนผัก สวนดอกไม้ ให้เข้าไปเยี่ยมชม ถ่ายรูปเล่น พร้อมร่วมกิจกรรมได้ มีจักรยานให้ขี่เล่นด้วยนะ ถ่ายรูปเล่นที่นี่นะ เก็บไว้ลงได้เป็นเดือนๆ เลย
ส่วนด้านในสุดจะเป็นที่พัก ในส่วนนี้ทางบ้านไร่ไออรุณข
วัดบ้านหงาว
วัดบ้านหงาว จัดอยู่ในหมวดสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญประจำจังหวัดระนอง ตั้งอยู่ที่ตำบลหงาว โดยอยู่ใกล้กับภูเขาหญ้า และอยู่ตรงข้ามกับน้ำตกหงาว
จุดเด่นของที่นี่คือ พระพุทธรูปดีบุก หรือ “พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์” ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นพระพุทธรูปดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก สาเหตุที่ใช้แร่ดีบุกในการสร้างพระพุทธรูป เพราะในสมัยก่อน จังหวัดระนองมีแร่ดีบุกเป็นจำนวนมาก และแร่ดีบุกเป็นสินค้าส่งออกของระนองได้สร้างความเจริญให้กับระนองเป็นเวลาหลายสิบปี จึงนำดีบุกมาสร้างพระพุทธรูป เพื่อเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดให้ผู้คนมาสักการะ
ไหว้พระด้านในเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาเดินชมบริเวณรอบอุโบสถ เราจะเห็นงานแกะสลักเล่าเรื่องราววิถีชีวิตผู้คนและเรื่องราวต่างๆของจังหวัดระนอง
อีกจุดหนึ่งบริเวณหลังวัดที่อยากแนะนำคือ วังมัจฉา เป็นบ่อปลาที่มีปลาขนาดใหญ่มาก ประกอบด้วย ปลาบึก ปลาจาระเม็ดน้ำจืด ปลาดุกยักษ์ สามารถให้อาหารได้ด้วย จุดนี้รบกวนสำรวจกิริยาไม่ส่งเสียงดังนะจ๊ะ เพราะเป็นกุฎิพระจ้า
ก้องวัลเลย์
อีกหนึ่งดินแดนที่กลมกล่อมแ
ด้วยแนวคิดของพี่ก้อง เจ้าของแบรนด์ก้องคอฟฟี่และ
เปิดประโยคสนทนาแรกกับพี่ก้
พี่ก้องไม่ใช่แค่พูดให้ฟัง แต่พาทำให้เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการ
นอกจากการเรียนรู้เรื่องกาแ
ร้านอาหารเคียงเล
ร้านอาหารเคียงเล อยู่ติดอ่าวทะเล และอีกฟากฝั่งนึง เราจะมองเห็นฝั่งพม่าได้อย่างชัดเจน แนะนำให้เลือกนั่งตรงริมอ่าว เพื่อชมพระอาทิตย์ตก จะได้มุมมองที่สวยงามชวนประทับใจค่ะ ใครกลัวยุงกัดก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ที่นี่มีบริการตะไคร้ไล่ยุงพร้อมเปิดพัดลมตัวใหญ่ให้ด้วย ใส่ใจลูกค้าดีมากๆค่ะ
ทางด้านอาหารแนะนำที่นี่ ก็มียำกุ้งเคย หมูสามชั้นผัดเคย ปูจักจั่นเผา หอยไฟไหม้ผัดขมิ้น แกงเหลืองไข่ปลาริวกิวยอดมะพร้าว ผักเหลียงผัดไข่ และผัดหมี่กระเฉดปูนิ่ม จะยกตัวอย่างมาสักนิดให้พอน้ำลายไหล อย่าง..
ผัดหมี่กระเฉดปูนิ่ม จริงๆเมนูนี้ไม่ใช่ยอดฮิตของทางร้าน แต่จัดว่าเด็ดมาก ทุกอณูของหมี่จะมีเครื่องปรุงแทรกอยู่ และหมี่ไม่จับตัวเป็นก้อน ผักกระเฉดพอดีคำ และปูนิ่มนิ่มกรอบมาก สามสิ่งตักรวมเป็นคำเดียวสามารถไปสู่นิพพานได้ เว่อร์มาก แต่ดีจนต่อตะโกนบอกต่อดังๆ
ผักเหลียงผัดไข่ เมนูสุดหินสำหรับการทำร้านอาหาร ว่าจะรอดไหม เพราะผักเหลียงถ้าทิ้งไว้นานๆให้เย็น ผักจะเริ่มเหนียว เซ็งไว แต่จานนี้ไม่เป็นแบบนั้น ทานไปคุยไปจนหมดจาน รสชาติดีเสมอต้นเสมอปลาย ของที่อื่นชอบทำติดหวานนะ แต่ที่นี่ รสพอดีเลยค่ะ รอดและหร่อยแรง!
ยำกุ้งเคย มาในรูปแบบกุ้งเคยทอด เสิร์ฟแยกน้ำยำ ชอบจานนี้ตรงที่ทานเล่นได้เพลินๆ ทานคู่กับเบียร์น่าจะเข้ากันมากเลย และขอแนะนำแบบขำๆว่า ถ้าจะตักให้แฟนทาน ต้องเอาหลบพัดลมด้วยนะ เพราะน้องกุ้งตัวเล็ก จะปลิวง่ายมากเลยจ้า
ร้านบังกีโรตีอาหรับ
เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราไม่ควรพลาด ร้านบังกีโรตีตั้งอยู่ในตัวอำเภอเมืองระนอง แนะนำให้มาตอนเช้ารับบรรยากาศดี ชมผู้คนในเมือง พร้อมทานอาหารแบบที่ชาวถิ่นชื่นชอบและแวะเวียนกันมาเป็นประจำ
เมนูที่เราสั่งมาในวันนี้มี โรตีอาหรับทานคู่กับแกงไก่ เมนูนี้ เป็นเมนูที่ได้รับคำแนะนำมาว่าคนท้องถิ่นสั่งมากที่สุด แป้งโรตีทานเปล่าๆก็เด็ดแล้ว แต่จิ้มกับแกงไก่แล้วเด็ดกว่า แกงมีกลิ่นเครื่องเทศหอมๆพร้อมไก่นุ่มกัดง่าย กินแปบเดียวหมดเลย จานนี้ราคา 45฿ นะ
ข้าวยำอัญชัน จานนี้สีสันสวยงามสะดุดตา ประกอบด้วย ข้าวอัญชัน กุ้งแห้งโขลก มะพร้าวคั่ว พริกแห้งป่น ใบชะพลูซอย ใบมะกรูดซอย ตะไคร้ซอย ถั่วงอก ถั่วฝักยาวซอย กะหล่ำปลีม่วงซอย มะนาว และน้ำบูดู(คล้ายน้ำปลาร้า ของทางภาคอีสาน แต่ไม่มีกลิ่นเหม็นค่ะ) คลุกให้เข้ากันแล้วทาน รสชาติคล้ายยำขนมจีนอย่างบอกไม่ถูก สวยและดีเทลละเอียดขนาดนี้ ทายไม่ถูกแน่ ว่าแค่ 40฿ เอง
ข้าวหมกแพะ หันไปแป๊บเดียวเกือบหมดจาน เพื่อนที่ทานไปไม่พูดอะไรมาก แต่ตักทานต่อแบบถี่ๆ ส่วนเราทันกินคำสุดท้าย หื้มรู้เรื่อง! จานนี้ 100฿
พอทานเสร็จแล้ว เหลือบไปเห็นป้ายโปรโมชั่นรักชาติคือ เวลา 8:00 น. โต๊ะไหนยืนเคารพธงชาติ ลดราคาไปเลย 5% ชวนให้คิดภาพตามว่า ถ้าอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว โต๊ะเราคงเป็นโต๊ะที่ร้องเพลงได้เสียงดังที่สุดเป็นแน่ ไว้วันหน้าคงต้องมาเยือนให้ถูกเวลากว่านี้
ร้านเจ้ต๋อย ซาลาเปาทับหลีและกาแฟสด
มาถึงทับหลีทั้งที ถ้าไม่แวะร้านซาลาเปา แปลว่ามาไม่ถึงที่นี่จริงๆน
ซาลาเปาร้านเจ๊ต๋อย มีให้บริการทั้งหมด 4 ไส้ ได้แก่ ไส้หมูสับ ไส้สังขยาใบเตย ไส้ถั่วดำ และไส้ครีม ราคาลูกละ 8 บาท ถ้าซื้อ 7 ลูกคิด 50 บาท (ลดไป 6 บาท) ส่วนขนมจีบหมู ลูกละ 3 บาท ส่วนตัวแล้วชอบขนมจีบมาก
นอกจากนี้ ทางร้านยังมีกาแฟและเครื่อง
เรื่อง : Fighting Duo