หัวเว่ยเจอกับความเสียหายอีกครั้ง เมื่อหน่วยงานด้านโทรคมของ “ซอฟท์แบงก์ กรุ๊ป คอร์ป” บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของญี่ปุ่น เลือก โนเกีย และอีริคสัน เป็นผู้จัดหาเครือข่ายไร้สายรุ่นใหม่ของบริษัท หลังจากที่มีหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ โค เป็นซัพพลายเออร์มาเป็นเวลานานแล้ว
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ซอฟท์แบงก์ได้เลือกโนเกีย เป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์สำหรับการเปิดตัว 5จี และอีริคสัน เป็นซัพพลายเออร์จัดอุปกรณ์เครือข่ายสำหรับการเข้าถึงวิทยุ หลังที่ผ่านมา หัวเว่ย และแซดทีอี คอร์ป เคยเป็นผู้จัดหาระบบ 4จี ให้กับบริษัทญี่ปุ่นรายนี้ ทั้งยังเข้าร่วมในการทดสอบระบบ 5จี ของบริษัทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย
ขณะที่ซอฟท์แบงก์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ ต่อเรื่องดังกล่าว
สื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นรายงานด้วยว่า มีแนวโน้มที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่อีก 2 รายใหญ่สุดของญี่ปุ่น คือ เอ็นทีที โดโคโม อิงค์ และเคดีดีไอ คอร์ป ก็จะทิ้งหัวเว่ย และแซดทีอีเช่นกัน
“เป็นเรื่องที่อาจคาดการณ์ได้เลยว่า โดโคโม และเคดีดีไอ จะทำตามซอฟท์แบงก์ ดังนั้น ถึงจะไม่ทำธุรกิจกับหัวเว่ยต่อไป ซอฟท์แบงก์ก็ไม่เสียเปรียบด้านต้นทุนแต่อย่างใด ” มาซาฮิโกะ อิชิโนะ นักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยโตไค โตเกียว ระบุ
การเคลื่อนไหวของซอฟท์แบงก์ยังเกิดขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีบริษัทโทรศัพท์จำนวนหนึ่ง ต่างยกเลิกการขายโทรศัพท์ของหัวเว่ยไปแล้ว ผลจากการที่รัฐบาลสหรัฐออกคำสั่งห้ามการจัดหาจากหัวเว่ย ที่ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง
กระนั้นก็ตาม จนถึงขณะนี้มีผู้ให้บริการโทรศัพท์เพียงไม่กี่ราย ที่ตัดสินใจตัดหัวเว่ยออกจากการเป็นผู้จัดหาโครงข่ายใหม่ รวมถึง ทีดีซี เอ/เอส บริษัทโทรศัพท์ีรายใหญ่สุดของเดนมาร์ก ที่เลือกอีริคสันเป็นผู้สร้างโครงข่าย 5จีให้กับบริษัท แทนที่จะเป็นหัวเว่ย ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ปัจจุบันของบริษัท
นอกจากนี้ ยังมีบีที กรุ๊ป ของสหราชอาณาจักร ที่ประกาศแผนถอดอุปกรณ์ของหัวเว่ยออกจากเครือข่ายมือถือหลักของบริษัท เกือบจะทันทีที่หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ หรือ เอ็มไอ6 ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่จะใช้อุปกรณ์ของบริษัทจีน เช่นเดียวกับไต้หวัน ที่สั่งห้ามอุปกรณ์โทรคมนาคมของบริษัทจีนไปแล้ว
