Marketing Trends

บรรจุภัณฑ์ 3 แสนล้านรับอานิสงส์ อาหารเครื่องดื่ม เครื่องสำอาง อีคอมเมิร์ซโต

เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ชี้ 3 เมกะเทรนด์ หนุนอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์โตต่อ หลังปี 2561 ตลาดไต่ระดับทะลุ 3 แสนล้าน แนะเร่งลงทุนนวัตกรรม เทคโนโลยีสร้างความได้เปรียบ

การพิมพ์2

นายพงศ์ธีระ พัฒนพีระเดช นายกสมาคมการพิมพ์ไทย เผยว่า ตัวเลขมูลค่าอุตสาหกรรมการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ไทยในปี 2561 มีมูลค่าร่วม 3 แสนกว่าล้านบาท โดยคิดเป็นอุตสาหกรรมการพิมพ์ราว 40% และการบรรจุภัณฑ์ 60% และในปี 2562 ตลาดการพิมพ์ในประเทศมีแนวโน้มขยายตัว 2% เนื่องจากนักลงทุนยังให้ความสนใจประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตที่รายล้อมด้วยประชาคมอาเซียน ที่มีจำนวนผู้บริโภคสูงกว่า 600 ล้านคน

ขณะที่อุตสาหกรรมการพิมพ์ไทย คาดว่าจะได้รับอานิสงค์จากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่ยังมีการขยายตัวต่อเนื่อง

นางสาวเบียทริซ เจ โฮ ผู้อำนวยการโครงการ แพ็ค พริ้นท์อินเตอร์เนชั่นแนล 2019 เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย (เอ็มดีเอ) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ได้รับการประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม และยังเป็นตลาดที่สร้างมูลค่าทางอุตสาหกรรมได้อย่างมหาศาล โดยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนรายได้ 42% จากรายได้ทั่วโลก และคาดการณ์ว่าจะติดอันดับตลาดที่เติบโตเร็วเป็นอันดับ 2 ในปี 2563 รวมถึงครองสัดส่วนของตลาดที่มีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์มากถึง 40% ในปี 2565

การพิมพ์

นอกจากนี้ยังมี 3 ปัจจัยระดับมหภาคหรือเมกะเทรนด์สำคัญ ที่ช่วยสนับสนุนสถานการณ์อุตสาหกรรมการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ ได้แก่  1. การขยายตัวของดิจิทัลแพคเกจจิ้งหนุนการเติบโตอุตสาหกรรมการพิมพ์ โดยพบว่า กลุ่มวัสดุที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ได้แก่กระดาษลูกฟูก กล่องกระดาษ บรรจุภัณฑ์อ่อนตัว การพิมพ์โลหะ เป็นต้น และเมื่อการพิมพ์ดิจิทัลกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และทำให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างกระแสรายได้ใหม่ๆ จากการใช้เทคโนโลยีตอบสนองความต้องการด้านอารมณ์ของผู้บริโภค

เทรนด์ที่ 2. มีแนวโน้มทิศทางการลงทุนเทคโนโลยีการพิมพ์เพื่อรองรับการผลิตใหม่ๆ ในปี 2562 อาทิ โฆษณา ได้แก่ เครื่องพิมพ์พร้อมตัดดิจิทัลโทนเนอร์ 29% และเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหน้ากว้างชนิดพร้อมตัวตัดและม้วน 19% บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ออฟเซ็ทชนิดป้อนแผ่น 27% และเครื่องพิมพ์เฟล็กโซ 25% การพิมพ์เฉพาะทาง ได้แก่ เครื่องพิมพ์พร้อมตัดดิจิทัลโทนเนอร์ 27% และเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหน้ากว้างชนิดพร้อมตัวตัดและม้วน 23% และสิ่งพิมพ์ ได้แก่เ ครื่องพิมพ์พร้อมตัดดิจิทัลโทนเนอร์ 30% และเครื่องพิมพ์ออฟเซ็ทชนิดป้อนแผ่น 29%

สำหรับเทรนด์ที่ 3. โอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มอุตสาหกรรมจากเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการปรับแต่งการใช้งานที่หลากหลาย โรงงานและผู้ประกอบการ ได้พัฒนานวัตกรรมและโซลูชันในการผลิตตอบโจทย์ตลาดมากยิ่งขึ้น ระยะเวลาการผลิตไวขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น รวมถึงกระบวนการผลิตแบบใหม่ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้

การพิมพ์1

ทั้งนี้ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ได้ร่วมกับ สมาคมการพิมพ์ไทย และสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย เตรียมจัดงาน “แพ็ค พริ้นท์อินเตอร์เนชั่นแนล 2019” มหกรรมจัดแสดงสินค้า และเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ที่รวมรวมมาจากกว่า 25 ประเทศชั้นนำทั่วโลก เพื่อเร่งการเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงของผู้ประกอบการไทย รวมถึงจุดเด่นของงาน กับบริการแมทชิ่ง และให้คำปรึกษา ระหว่างคู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และอุตสาหกรรมไทย โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 กันยายน 2562 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

 

นายมานิตย์ กมลสุวรรณ นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์มีกำลังการผลิตในประเทศสูงถึง 5.83 ล้านตันในปีที่ผ่านมา โดยแบ่งสัดส่วนวัสดุการผลิตจากกระดาษ 37.74% แก้ว 30.05% พลาสติก 24.34% และโลหะ 7.87% และคาดว่าสิ้นปี 2562 จะยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากนโยบายกระตุ้นการลงทุนจากทางภาครัฐ และคาดว่าสิ้นปี 2562 จะมีมูลค่าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 10 – 20%

บรรจุภัณฑ์

ด้านนโยบายภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต ทำให้ภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ยังเป็นปัจจัยหนุนอุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากประเทศไทยสามารถเข้าถึงวัตถุดิบการผลิตได้ง่าย และผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการของตลาดส่งออก ขณะที่การพัฒนาเทคโนโลยีการบรรจุภัณฑ์เพื่อการถนอมคุณภาพ ยืดอายุการเก็บรักษาของอาหาร ควบคู่นโยบายภาครัฐในเรื่องมาตรฐานบรรจุภัณฑ์และฉลาก ทำให้ผลิตภัณฑ์ต้นน้ำจากในประเทศ มีคุณภาพมตราฐานระดับสากล และมีความสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้

อย่างไรก็ดี นวัตกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ จะเป็นข้อท้าทายหนึ่งที่สร้างการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์ไทย โดยคาดว่าในช่วงทศวรรษข้างหน้า อุตสาหกรรมการบรรจุภัณฑ์จะมีการพัฒนาครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิทธิพลจากเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัล ดังนั้น ผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ผลิตในประเทศ ควรปรับทิศทางธุรกิจให้เท่าทันสถานการณ์ตลาดการพิมพ์และการบรรจุภัณฑ์ดิจิทัล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูด ประหยัดต้นทุน สร้างความยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันในระดับสูงยิ่งขึ้นไปอีก นายมานิตย์ กล่าวทิ้งท้าย

Avatar photo