Properties

ทำเลบางซื่อ จตุจักร ลาดพร้าว เขย่าวงการที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ดีเวลลอปเปอร์ ผู้ซื้อ

ผลสำรวจ DDproperty Property Market Outlook 2019 เผย 3 ทำเลมาแรง ดิสรัปวงการที่พักอาศัย ชี้มีศักยภาพดึงดูดทั้งนักพัฒนาโครงการและกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาที่อยู่อาศัยแหล่งใหม่ที่เดินทางสะดวก สภาพแวดล้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย DDproperty.com เปิดเผยว่า ทำเลในกรุงเทพฯ ที่ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่รอบนอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ เช่น จตุจักร บางซื่อ สะท้อนให้เห็นการขยายพื้นที่อยู่อาศัยจากใจกลางเมืองมาสู่พื้นที่รอบนอกมากขึ้น และที่น่าจับตาคือดัชนีราคาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน คาดว่าจะเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจยิ่งขึ้นเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการในปี 2562

ทำเลทอง

ทั้งนี้เป็นทิศทางเดียวกับผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ (DDproperty Consumer Sentiment Survey) รอบล่าสุดที่พบว่าทำเลกรุงเทพฯ รอบนอก และเขตลาดพร้าว รัชดาและพระรามเก้าเป็นย่านที่ผู้มองหาที่อยู่อาศัยให้ความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ คิดเป็นกว่า 57% ของผู้สำรวจทั้งหมด

นอกเหนือจากเรื่องของทำเลในภาพรวมแล้ว ลึกเข้าไปยิ่งกว่านั้น ระยะห่างระหว่างที่พักและสถานที่ต่างๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใช้พิจารณามากที่สุด โดย 5 อันดับแรก ได้แก่

  • ความสะดวกและระยะทางในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ (60%)
  • ระยะทางจากที่พักถึงที่ทำงาน (51%)
  • ระยะทางจากที่พักถึงสถานบริการทางการแพทย์ (38%)
  • ระยะทางจากที่พักถึงห้างสรรพสินค้า (32%)
  • ระยะทางจากที่พักถึงสวนสาธารณะ (25%)

สำหรับ 3 ทำเลดังกล่าว ถือว่าตอบโจทย์ครบทั้ง 5 ปัจจัย ตั้งแต่การพัฒนาสถานีรถไฟบางซื่อให้กลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางของประเทศ เชื่อมต่อกรุงเทพฯ กับพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก (EEC) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างประเทศ เช่น ลาว จีน และมาเลเซีย เพื่อพลิกโฉมกรุงเทพฯ ให้เป็นเกตเวย์สำคัญของประเทศไทยสู่อาเซียนและเวทีโลก แล้วยังเป็นส่วนต่อขยายของสถานีรถไฟสายต่าง ๆ เช่น สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) สีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ที่ครอบคลุมพื้นที่หลัก ๆ ของกรุงเทพฯ

ในอนาคตจะมีผู้ใช้บริการที่สถานีกลางบางซื่อประมาณ 200,000 คน/เที่ยว/วัน ส่งผลให้ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีบางซื่อมีราคาพุ่งสูงถึง 250,000 บาทต่อตารางวา (ข้อมูลปี 2560) และจากราคาประเมินที่ดินรอบล่าสุดของกรมธนารักษ์ พบว่า ราคาประเมินที่ดินแนว ถ.พหลโยธิน อยู่ที่ 130,000-500,000 บาท/ตารางวา จากเดิมอยู่ที่ 100,000-400,000 บาท/ตารางวา หรือเพิ่มขึ้น 30%

bangkokads 0010

จากอานิสงส์ของโครงการคมนาคมต่าง ๆ นอกจากจะส่งผลให้ราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้นตามไปด้วย จากรายงานของ DDproperty Property Index รอบล่าสุด พบว่า เขตจตุจักร มีดัชนีราคาเพิ่มขึ้นถึง 22% ราคากลางเฉลี่ยอยู่ที่ 144,591 บาทต่อตารางเมตร ส่วนเขตบางซื่อ อยู่ที่ 90,444 บาทต่อตารางเมตร และลาดพร้าว อยู่ที่ 51,800 บาทต่อตารางเมตร

ขณะที่การปรับผังเมืองใหม่ในกรุงเทพฯ ที่จะเริ่มประกาศใช้ในปี 2563 ทำให้หลายทำเลเหมาะแก่การพัฒนาที่อยู่อาศัยมากขึ้น เช่น เขตลาดพร้าวที่มีแผนจะปรับจากพื้นที่สีเหลืองเป็นพื้นที่สีส้ม ซึ่งหมายถึงปรับจากพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อยเป็นหนาแน่นปานกลาง ซึ่งรายงานของ DDproperty Property Index พบว่า เขตลาดพร้าวมีสัดส่วนจำนวนอุปทานทาวน์เฮาส์ติดอันดับ 1 ใน 3 ต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 ทำให้ผู้ประกอบการยังคงให้ความสนใจพัฒนาโครงการในทำเลนี้ โดยสัดส่วนทาวน์เฮาส์ราคา 1.5-5 ล้านบาท และ 5-10 ล้านบาท เป็นสินค้าหลักที่มีจำนวนใกล้เคียงกัน

ทำเลที่มีราคาพุ่งสูงขึ้นจนน่าจับตาคือบริเวณห้าแยกลาดพร้าว โดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยเผยว่าเมื่อ 10 ปีก่อนมีราคาเพียง 100,000 -150,000 บาทต่อตารางวา แต่ปัจจุบันดีดตัวขึ้นถึง 10 เท่า แตะราคาที่ 1,000,000 บาทต่อตารางวา ด้วยการเป็นจุดตัดของรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญบีทีเอส-เอ็มอาร์ที จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ราคาที่ดินทำเลนี้จะวิ่งไปแตะตารางวาละ 2 ล้านบาท

Avatar photo