ที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบคืนโฉนดและทรัพย์สิน คืนความสุขให้ประชาชนลดความเหลื่อมล้ำของสังคมครั้งที่ 11 ภายในงานมี พล.ต.อ.ชัยวัตน์ เกตุวรชัย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) พล.ต.ท. สุธีร์ เนรกัณฐี. ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.สส.บช.ภ.4 ผู้แทนหน่วยงานราชการต่างๆให้การต้อนรับ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายแบบบูรณาการ เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ยกระดับชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ถือเป็นครั้งที่11 ได้มีการคืนโฉนดให้แก่ผู้เสียหาย เป็นประชาชนในจังหวัดพิษณุโลก และพื้นที่ใกล้เคียง ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำสัญญากู้ยืม
ที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำ สางปัญหาหนี้นอกระบบที่ฝังรากลึกมาหลายปี ประชาชนบางคนถูกนายทุนยึดที่ดินทำกินไปมากกว่า 10-20 ปี ประชาชนที่ได้รับโฉนดคืนไปก็ขออย่านำไปกู้นอกระบบ หรือนำไปจำนองอีก อยากให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ใช้ทำมาหากินอย่างถูกต้อง รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำคนยากจนเข้าสู่ระบบแหล่งการเงินมากขึ้น โดยไม่ต้องพึงแหล่งเงินกู้นอกระบบ และสนับสนุนระบบฟิโกไฟแนนซ์ นาโนไฟแนนซ์ ทำให้นายทุนเข้าสู่ระบบมากที่สุด ได้ให้ กอ.รมน. ประสานกลไกระดับพื้นที่ ตามเข้าไปสนับสนุนลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างฟื้นตัว เพื่อให้กลับมาเข้มแข็งอย่างยั่งยืนร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงสะท้อนของชาวบ้านที่อยากเห็น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล กลับมาทำงานให้กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และทางรัฐบาล ใน การแก้ปัญหาหนี้ระบบและปัญหาอาชญากรรมอื่นๆอีกครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าส่วนนี้ต้องขอดูก่อนว่าแนวทางมีความเป็นไปได้หรือไม่ ตำแหน่งของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สูงขึ้นไปมากน้อยแค่ไหน สามารถจะกลับมาทำได้หรือไม่ แต่ยืนยันว่าต้องดำเนินการต่อไปในการปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งศปอส.ตร.ได้ให้พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย มารับผิดชอบ พร้อมใช้ทีมงานชุดเดิม
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าสำหรับการมอบคืนโฉนดที่ดิน ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม -15 พฤษภาคม 2562 มีลูกหนี้ได้รับโฉนดคืนทั่วประเทศ 1,932 ราย คืนโฉนดจำนวน 1,802 ฉบับ เนื้อที่ 5647 ไร่ 2 งาน 74 ตารางวา คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,046 ล้านบาท ด้านการเจรจาไกล่เกลี่ย สามารถช่วยเจรจาทำข้อตกลงกันแล้ว 41,000 ราย
โดยพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ไกล่เกลี่ยได้ 873 ราย รวมโฉนด 971ฉบับ เนื้อที่ 3659ไร่ 1งาน 56.5 ตารางวา มูลค่ากว่า 2,389 ล้านบาท รวมทั้งยานพาหนะและเครื่องมือทำการเกษตร กว่า 170 คัน จากการดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561ถึงปัจจุบัน ได้ทำการคืนโฉนดให้กับประชาชน 24,014 ราย คืนโฉนด จำนวน 20,360 ฉบับ เนื้อที่ 57,648 ไร่ 2 งาน 42.72 ตารางวา คิดเป็นมูลค่า 27,614 ล้านบาท
ด้านพล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่าปัญหาหนี้นอกระบบเป็นนโยบายสำคัญที่ทางรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาทำภาคการเกษตร เพื่อมีที่ทำกินเลี้ยงชีพ ทางศปฉช.ตร. จะขับเคลื่อนแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยจะทำอย่างเป็นรูปธรรม จะทำคู่ขนานกับการไกล่ เกลียกรณีข้อพิพาทราคาเช่าที่ดินที่สูงเกินความเป็นจริง เพื่อให้เกษตรกรได้สามารถกลับไปทำการเกษตรได้
น.ส.สุภัทรา อยู่ศิริบูรณ์ 36 ปี ชาวอำเภอนาดินดำ จังหวัด เลย ที่กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการดังกล่าว ขอบคุณรัฐบาลที่ เห็นปัญหาของประชาชน อยากขอให้พล.อ.ประวิตร ช่วยเอาคนที่ทำงาน อย่างพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล กลับมาทำงานให้ประชาชน เพราะยังมีประชาชนที่ยังรอการช่วยเหลืออีกจำนวนมาก
