ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจวันแรงงานปีนี้มีการใช้จ่ายกว่า 2,200 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 3 ปี เผยส่วนใหญ่มีหนี้สินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 158,000 บาทต่อครัวเรือน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการสำรวจ “สถานภาพแรงงานไทย : กรณีศึกษาผู้มีรายได้ ต่ำกว่า 15,000 บาท” จาก 1,200 ตัวอย่างทั่วประเทศ ในกลุ่มอาชีพข้าราชการ รับจ้าง พนักงานเอกชนรัฐวิสาหกิจ และรับจ้างรายวัน ส่วนใหญ่จะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 10,000 -15,000 บาท โดยสัดส่วน 86.2% ไม่มีเงินออม ทำให้แรงงานถึง 95% มีภาระหนี้สินจากการกู้ยืมมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่อยู่อาศัย และยานพาหนะ
โดยเฉลี่ยจำนวนหนี้สินต่อครัวเรือนประมาณ 158,000 บาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ยังมีสัดส่วนการกู้เงินในระบบสูงกว่า ต้องผ่อนชำระเดือนละ 7,200 บาท และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ยังคงเจอปัญหาผิดนัดชำระหนี้ เพราะมีค่าใช้จ่ายเดือนชนเดือน รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย จากราคาสินค้าและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ยังมองว่าเศรษฐกิจในประเทศยังทรงตัว
ทั้งนี้ แรงงานส่วนใหญ่ เห็นว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบัน มีความเหมาะสมในระดับปานกลางเท่านั้น อยากให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แม้จะไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ แต่อย่างน้อยก็ปรับเพิ่มให้เท่ากับค่าสาธารณูปโภค ค่าเดินทาง และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น
ส่วนกิจกรรมในช่วงวันแรงงาน จะไปท่องเที่ยวตามสถานที่จัดงานแรงงาน ดูหนัง สังสรรค์และไปซื้อของ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 2,164 บาท คาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายในวันแรงงานปีนี้อยู่ที่ประมาณ 2,232 ล้านบาท ขยายตัว 1.8% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ยังต้องติดตามประเด็นภาระหนี้ต่อครัวเรือน แม้จะยังมีสัดส่วนการกู้ยืมในระบบที่สูงกว่า แต่เริ่มมีการกู้นอกระบบมากขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 34% เพิ่มขึ้นเป็น 41.8% ในปีนี้
จากปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่รายได้ยังพอดีกับรายจ่าย หรือรายได้ยังน้อยกว่ารายจ่าย ทำให้ยังต้องกู้ยืมเงิน รัฐบาลควรแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ เช่น การปรับโครงการธงฟ้าเฉพาะในกลุ่มที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อแรงงาน
จากผลสำรวจแรงงาน แม้ลูกจ้างยังต้องการค่าจ้างแรงงานเพิ่ม แต่ทุกคนก็เข้าใจนายจ้าง หากปรับค่าจ้าง จะกระทบต่อนายจ้างและไม่เป็นผลดีกับลูกจ้างหากให้ออกจากงาน การหางานใหม่จะลำบากมากในช่วงนี้ อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ ช่วยดูแลเรื่องค่าแรงงานและสวัสดิการอื่นๆ ส่วนเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรกน่าจะเติบโตเพียง 3.2-3.3% เมื่อทุกอย่างดีขึ้นครึ่งปีหลังมีรัฐบาลใหม่เศรษฐกิจน่าจะเติบโตถึง 4% ทำให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมทั้งปีอยู่ที่ 3.5-3.8%