Politics

ชัด! ‘นิพิฏฐ์’ ยันหลักฐานครบเอาผิดบางพรรคทุจริตเลือกตั้งพัทลุง

“นิพิฏฐ์” ยันมีหลักฐานแน่นหนาสอยบางพรรคทุจริตเลือกตั้งพัทลุงได้ จี้ “กกต.” ต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดกันกระทบต่อความน่าเชื่อถือองค์กร วอน “ประยุทธ์” ช่วยคุ้มครองพยาน

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส. พัทลุง แถลงข่าวถึงประเด็นการทุจริตการเลือกตั้ง เขต 2 จังหวัดพัทลุง โดยยืนยันว่ามีการเตรียมการทำกันเป็นกระบวนการที่ใหญ่มาก และส่วนตัวได้พูดเตือนกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไว้ก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการทั่วไป ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 โดยยื่นเรื่องต่อกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดพัทลุง และผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และหลังจากนั้นก็มีการทุจริตจริงอย่างเป็นระบบ ด้วยการถ่ายบัตรประชาชนไว้เบื้องต้น  4 หมื่นใบ และเพิ่มมาเป็น 6 หมื่นใบ

นิพิฏฐ์

นอกจากนี้ ที่สำคัญต้องเน้นย้ำว่า กรณีนี้กรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับการทุจริต ซึ่งโทษตามกฎหมายเลือกตั้งถึงขั้นยุบพรรคการเมืองที่กระทำหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทราบว่าเริ่มมีการต่อรองของพรรคการเมืองนั้นกับผู้มีอำนาจแล้วว่าอย่าให้โทษถึงยุบพรรค และขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็พอ เพราะหากลงโทษตามกฎหมาย จะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลเพราะพรรคที่กระทำนี้เป็นพรรคหนึ่งที่จะร่วมรัฐบาล เนื่องจากมีหลักฐานที่สามารถโยงถึงกรรมการบริหารพรรค และมีพยานบุคคลรวมถึงคลิปข้อความสั่งทางไลน์ด้วย

“ผมทำเรื่องการยุบพรรคการเมืองมาแล้วสองครั้ง แต่ละครั้งพยานหลักฐานทั้งสองครั้งยังไม่ชัดเจนเท่านี้ ศาลท่านยังสั่งยุบพรรค แต่ครั้งนี้ทั้งพยานและหลักฐานหนาแน่นกว่าสองครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะพยานเอกสารที่ไม่สามารถหักล้างได้ ผมเป็นคนร้องเรียนเป็นคนแรกของประเทศไทยในเรื่องนี้ เมื่อร้องก่อน พรฏ.เลือกตั้งส.ส. การตรวจสอบต้องเร็วและสามารถได้ข้อสรุปแล้วว่า จะสั่งยก สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือสั่งยุบพรรค ผมก็ไม่ติดใจ แต่จะประวิงเวลาโดยไม่มีข้อยุติตามกฎหมายกำหนดไม่ได้”นายนิพิฏฐ์ ระบุ

ทั้งนั้ แต่พอมีการเจรจาต่อรองกับผู้มีอำนาจเพื่อขอให้ถ่วงเวลาไปก่อน หรือรับรองไปก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง ที่สุดมันจะทำลายความน่าเชื่อถือต่อองค์กร กกต.  ที่สำคัญเป็นความลำบากในคดีทุจริตเลือกตั้งที่จะหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพยานบุคคลยากมากกว่าจะมีคนกล้าเป็นแต่ละคน ซึ่งคดีนี้พยานฝ่ายหลายคนต้องหนีออกไปนอกพื้นที่ ไปอยู่ที่อื่นเพราะมีการส่งคนมาข่มขู่ในลักษณะต่างๆ รวมไปถึงญาติด้วย

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (10เม.ย.) เวลา 13.00 น. จะเดินไปยื่นเรื่องร้องต่อเลขาธิการ กกต. เพื่อขอให้เร่งรัดการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ที่สำคัญต้องขอให้มีการคุ้มครองพยานบุคล เพราะพยานทุกคนที่ให้ถ้อยคำ เพราะเป็นพลเมืองดี กกต.อย่าให้ล้มหายตายจาก หรือบาดเจ็บ และตนจะร้องต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เข้มงวดเรื่องคุ้มครองพยาน หากพยานเป็นอะไรไปก็มีเหตุผลเดียว คือ มาจากการเป็นพยานในคดีทุจริตเลือกตั้งที่เขต 2 จังหวัดพัทลุง

1 e1554872818537

“สำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลพยานมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก จึงขอให้ กกต. มีหน้าที่โดยตรงต้องคุ้มครองพยานเพราะหากไม่ทำต่อไปก็คงไม่มีพลเมืองดีที่จะกล้ามาเป็นพยานในคดีการทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้ง ยิ่งกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจด้วย จึงต้องเรียกร้องต่อหัวหน้า คสช.โดยตรงขอให้ดูแลคุ้มครองพยาน หากพยานทุกคนของเป็นอะไรไป คงต้องโทษหัวหน้า คสช.”รองหัวหน้าพรรค กล่าว

ส่วนเรื่องประเด็นการต่อรองเพื่อไม่ให้ยุบพรรคดังกล่าวนั้น ส่วนตัวรู้มาในทางลับโดยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับผู้มีอำนาจปัจจุบันให้ตัดตอนการยุบพรรคออกไป เพราะพรรคการเมืองที่ว่านี้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากมีการสั่งยุบพรรคจะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล และอยากสื่อไปถึงนักกฎหมายขอให้ดูเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาว่าจะถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ และขอให้ยึดหลักกฎหมาย แต่ทั้งนี้เป็นหน้าที่และดุลยพินิจของ กกต. และยืนยันว่ากรณีดังกล่าวมีพยานหลักฐานแน่นหนา

เมื่อถามว่า แสดงว่า กกต. ชุดนี้สั่งได้ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้บอกว่าสั่งได้ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับใหญ่กับผู้มีอำนาจเจรจาต่อรองกัน ส่วนจะถึงโมฆะหรือไม่นั้น เห็นว่าเป็นการทุจริตแต่ละเขตเพราะเลือกตั้ง เพราะถ้าโมฆะต้องเป็นภาพใหญ่ ผิดฎหมายเลือกตั้ง หรือรัฐธรรมนูญ ส่วนบางฝ่ายระบุว่าการประกาศ พรฎ. จนถึงวันเลือกตั้งมีเวลาเกิน 60 วันไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จะทำให้การเลือกตั้งนี้เป็นโมฆะหรือไม่นั้น ตนยอมรับว่าไม่ได้ศึกษารายละเอียดในข้อกฎหมายนี้

 

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight