Business

‘เวิร์คพอยท์’แจงต้นทุนผลิตรายการทีวีพุ่ง 20%

เวิร์คพอยท์ เผยไตรมาสแรกรายได้เพิ่ม 9%  กำไร 165 ล้านบาท ลดลง 4% เหตุต้นทุนผลิตรายการใหม่พุ่ง 20%

สุรการ ศิริโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส1 ปี 2561 โดยมีรายได้ 889.78 ล้านบาท กำไรสุทธิ 165.60 ล้านบาท ลดลง 7.77  ล้านบาท หรือ 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 173.38 ล้านบาท

ไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม (ไม่รวมรายได้อื่น) อยู่ที่ 885.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.43 ล้านบาท หรือ 9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 809.63 ล้านบาท

เวิร์คพอยท์

รายได้ทีวีเพิ่มขึ้น 5%

รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจาก ธุรกิจรายการโทรทัศน์ ประกอบด้วย รายได้จากการขายโฆษณาและโปรโมทในช่วงเวลาต่างๆ ของช่องเวิร์คพอยท์ ,สถานีทีวีช่องอื่น และสื่อออนไลน์ต่างๆ ของบริษัท รวมถึงรายได้จากการให้เช่าช่วงเวลาให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อออกอากาศรายการทีวี ช่องเวิร์คพอยท์ รายได้จากการรับจ้างผลิตรายการ และรายได้จากการขายลิขสิทธิ์รายการในต่างประเทศ

ไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทมีรายได้จากรายการทีวี 774.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 35.68 ล้านบาท หรือ 5% มาจากรายการทีวีเวิร์คพอยท์ และสื่อออนไลน์ นอกจากนี้มีรายได้จากการรับจ้างจัดงานอีเวนท์ 27.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน

ด้านรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวทีไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 43.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.14 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อน

เวิร์คพอยท์
รูปจากเฟซบุ๊ก Workpoint Entertainment

“ต้นทุน”ผลิตรายการพุ่ง 20%

ทางด้าน “ต้นทุน” ไตรมาสแรกปี 2561 อยู่ที่ 479.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.21 ล้านบาท หรือ 23%  จากปี 2560 ที่มีต้นทุน 390.50 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนรายการทีวี ซึ่งไตรมาสแรกอยู่ที่ 409.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.91 ล้านบาท หรือ 20% เมื่อเทียบกับปี 2560  โดยเพิ่มขึ้นตามจำนวนรายการที่ผลิตมากขึ้น ได้แก่รายการ The Show ,The Diva, My Mom Cook เชฟไม่ทิ้งแถว ,Show Me Your Son ลูกแม่หล่อมาก เป็นต้น

เวิร์คพอยท์
รูปจากเฟซบุ๊ก Workpoint Entertainment

โบรกฯประเมินไตรมาส 2 ดีขึ้น

บล.ฟิลลิป ประเมิน “เวิร์คพอยท์” ไตรมาส2 ปีนี้  มีแนวโน้มดีขึ้น หลังละคร “บุพเพสันนิวาส” จบเรตติ้งของเวิร์คพอยท์ ฟื้นตัวดีขึ้นอีกทั้งเม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมฟื้นตัวเริ่มเห็นการเติบโตอีกครั้ง จึงคาดกำไรจะดีขึ้นเทียบไตรมาสต่อไตรมาส แต่หากเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนต้องประเมินอีกครั้ง  เพราะรายการหลักที่มีเรตติ้งดีปีก่อนมีเรตติ้งลดลง  อาจมีผลต่ออัตราการขายโฆษณาและการปรับขึ้นค่าโฆษณาที่ปีก่อนสามารถปรับเพิ่มขึ้นไตรมาสต่อไตรมาส

โดยต้นปีนี้เวิร์คพอยท์ได้ปรับขึ้นค่าโฆษณาเป็นราว 8.5 หมื่นบาทต่อนาที จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.9-6 หมื่นบาทต่อนาที

 

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight