อดีตผู้นำมาเลเซีย “นาจิบ ราซัก” กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หลังโดนคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่สะพัดไปทั่วว่า เขาพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกดำเนินคดี ที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงกองทุนวันเอ็มดีบีอันอื้อฉาว
ชาวมาเลเซียที่ไม่พอใจในตัวนาจิบ พากันไปรวมตัวที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ตะโกนโห่ร้องใส่รถคันหนึ่ง และพยายามที่จะสกัดไม่ให้รถคันดังกล่าวเข้าสู่สนามบิน หลังจากมีข้อมูลที่อ้างว่า เป็นเที่ยวบินของนาจิบ และรอสมาห์ แมนเซอร์ ภริยา วางแผนจะเดินทางไปอินโดนีเซีย เผยแพร่ในโลกออนไลน์
อย่างไรก็ดี รถคันดังกล่าวไม่ใช่ของนาจิบ และภริยาแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ นาจิบ ที่กำลังโดนกดดันอย่างหนักภายในกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ(บีเอ็น )หลังนำทีมพันธมิตรฝ่ายรัฐบาลพ่ายแพ้ต่อกลุ่มฝ่ายค้านภายใต้การนำของ “มหาธีร์ โมฮัมหมัด” ในการเลือกตั้งใหญ่เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศออกจากการเป็นผู้นำกลุ่มบีเอ็น รวมถึง ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคอัมโน แกนนำหลักของกลุ่มบีเอ็น
หลังจากที่มหาธีร์ กลับมาเป็นผู้นำมาเลเซียอีกครั้งในวัย 92 ปี ก็เกิดข่าวลือสะพัดไปทั่วว่า นาจิบ ซึ่งมีชื่อเกี่ยวข้องกับกรณีฉ้อโกงกองทุนพัฒนาแห่งชาติ “วันเอ็มดีบี” อันอื้อฉาว อาจพยายามหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะมหาธีร์เคยให้คำมั่นที่จะดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้
ภาพตารางการบินในเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซียนั้น แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งนาจิบได้ออกมาโพสต์ในโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่า เขามีแผนการที่จะเดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น และจะเดินทางกลับมาในสัปดาห์หน้า
ขึ้นบัญชีดำ
มุสตาฟาร์ อาลี ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย เปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้มีการขึ้นบัญชีดำ ห้ามนาจิบ และภริยาเดินทางออกนอกประเทศแล้ว
ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็ได้ทวีตข้อความบอกว่า เขาได้รับแจ้งถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว
“ผมเคารพในการตัดสินใจ และผมยังอยู่ในประเทศกับครอบครัวของผม”
สำหรับรอสมาห์นั้น ถือได้ว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของมาเลเซียที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากประชาชนเท่าใดนัก โดยในระหว่างที่ฝูงชนรุมล้อมรถคันหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าเป็นรถของนาจิบ และภริยา ที่สนามบินนั้น มีคนตะโกนขึ้นมาด้วยว่า เกลียดรอสมาห์
เธอตกเป็นเป้าโจมตีมาเป็นเวลานาน จากรสนิยมที่ชอบเดินทางไปชอปปิงสินค้าหรูหราในต่างประเทศ และสะสมกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ชาวมาเลเซียทั่วไป ต้องรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลนาจิบประกาศนโยบายจัดเก็บภาษีขาย เมื่อปี 2558
ฉ้อโกงสุดฉาว
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้ยื่นฟ้องร้องในคดีแพ่ง กล่าวหาถึงการยักยอกทรัพย์ และฟอกเงินจำนวน 4.5 พันล้านดอลลาร์ ในกองทุนวันเอ็มดีบี โดยเงินส่วนหนึ่งถูกนำไปซื้อสิ่งของต่างๆ ในสหรัฐ ไล่ตั้งแต่งานศิลปะ ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์หรูหรา
นาจิบ และเอ็มดีบี ต่างปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิดใดๆ ในเรื่องดังกล่าว
เปิดทาง ‘อันวาร์’ นำประเทศ
หนึ่งในเหตุการณ์ใหญ่สุด นับตั้งแต่ที่มหาธีร์เข้ารับตำแหน่งผู้นำมาเลเซียท คือ การที่เขาประกาศว่า กษัตริย์มาเลเซียเห็นชอบที่จะพระราชทานอภัยโทษแก่อันวาร์ อิบราฮิม แกนนำฝ่านค้านที่ต้องโทษอยู่ อดีตทายาทการเมืองของมหาธีร์ที่กลายมาเป็นศัตรูกัน และกลับมาเป็นพันธมิตรอีกครั้ง
การพระราชทานอภัยโทษดังกล่าว จะเป็นการเปิดทางให้อันวาร์ กลับเข้าสู่แวดวงการเมืองอีกครั้ง และอาจจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เนื่องจากมหาธีร์เคยบอกว่า เขามีแผนที่จะส่งมอบตำแหน่งให้กับอันวาร์
สั่งห้าม ‘นาจิบ ราซัก’ ออกนอกประเทศ
‘มหาธีร์’ สาบานตน ขึ้นแท่นผู้นำอายุมากสุดในโลก
‘ชัยชนะมหาธีร์’ ความพ่ายแพ้ตลาดหุ้นมาเลย์?
