ภูมิใจไทยยันปลูกกัญชาเสรีเพื่อเปิดทางปชช.สร้างรายได้และอยู่ภายใต้การควบคุม ย้ำทุกนโบายพรรคเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายเคร่งครัด
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า กรณีที่นายวิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายปลูกกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทยนั้น ส่วนตัวได้เห็นเนื้อหาที่นายวิชาพูดแล้ว ต้องขอขอบคุณในความห่วงใย ที่อยากให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งตนสามารถยืนยันได้ว่านโยบายกัญชาเสรีของพรรคมีรายละเอียดที่ครอบคลุมปัญหาที่อาจจะตามมาในทุกมิติ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ
ที่ผ่านมา พรรคได้พยายามให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายนี้มาโดยตลอด แนวคิดหลักของนโยบายปลูกกัญชาเสรี คือ ปลูกเพื่อการแพทย์โดยเสรี ไม่ปิดกั้นประชาชน ไม่ผูกขาดให้นายทุน เปิดโอกาสให้ประชาชนปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นวัตถุดิบทางการแพทย์ ปลูกเพื่อใช้ในครัวเรือน เป็นสมุนไพรตามเงื่อนไขกำหนด การนำมาใช้เพื่อสันทนาการ ต้องเป็นไปตามกฎหมายกำหนด เช่น กำหนดอายุ ปริมาณการซื้อ รูปแบบการใช้ พื้นที่การใช้ เป็นต้น ทั้งหมดมีการวิจัย การศึกษา ของสถาบันการศึกษารองรับ และเตรียมพร้อมไว้ ในลักษณะที่พร้อมจะดำเนินการ หากทุกฝ่ายเห็นด้วยกับนโยบายของพรรค
“การเสนอของพรรคไม่ใช้เป็นนโยบายกัญชาแบบสุดซอยอย่างที่มีการวิจารณ์ แต่เป็นนโยบายที่ตั้งใจทำอย่างมีขั้นตอน ทำเป็นขั้นๆ ไม่ได้ทำแบบหักดิบที่ต้องสำเร็จในทันที มีการศึกษาเตรียมพร้อม ทั้งเรื่องกฎหมาย เรื่องความพร้อมของคน สังคม โดยได้สอบถามความเห็นอย่างรอบคอบแล้ว จึงออกมาเป็นนโยบายเพื่อผลประโยชน์ทางการแพทย์ การศึกษา ที่สำคัญคือเพื่อประโยชน์ในการแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน”
สำหรับกรณีที่นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะมีการใช้งบประมาณจำนวนมากนั้น ซึ่งเรื่องนี้คงเป็นการออกมาแสดงความห่วงใยของปลัดกระทรวง ที่ต้องการให้ประชาชนได้ศึกษานโยบายของแต่ละพรรคการเมืองให้ดีก่อน และเรื่องที่ปลัดคลังออกมาพูดนั้น เป็นแนวทางที่พรรคใช้ในการทำนโยบายอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ทีมงานของพรรคได้ศึกษารัฐธรรมนูญ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำนโยบายทุกและทำตามอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นร่างยุทธศาสตร์ชาติ หรือกฎหมายวินัยทางการเงินการคลัง พรรคคำนึงถึงหมดว่าทุกนโยบายที่จะออกมาต้องทำได้จริง โดยไม่กระทบวินัยทางการเงินการคลัง
อย่างไรก็ดี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ได้ให้แนวคิดชัดเจนในการทำนโยบายของพรรค คือ จะไม่ใช้เงินหรืองบประมาณเพื่อซื้อใจประชาชน ซึ่งเห็นได้ว่านโยบายของพรรคเน้นการทำลายข้อจำกัดทางกฎหมาย และนำไปสู่การลดอำนาจรัฐ เพื่อที่ผลประโยชน์จะตกอยู่กับปากท้องของประชาชน โดยขอยกตัวอย่าง นโยบายปลูกกัญชาเสรี ก็เป็นเรื่องที่พรรคจะดำเนินการแก้ไขออกกฎหมาย เพื่อให้สามารถปลูกได้เสรี ทำให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่จะเป็นช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน หรือนโยบายแกร็บคาร์ ชัดเจนว่าเป็นการทลายข้อจำกัดทางกฎหมายอีกเช่นกัน เพื่อให้คนทำมาหากินได้ขับรถแกร็บอย่างถูกกฎหมาย เป็นต้น
“นโยบายของท่านหัวหน้าพรรคชัดเจนว่า เราไม่ใช้เงินเพื่อซื้อใจประชาชน แต่เราจะทำการปลดล็อคด้านกฎหมาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถทำมาหากินได้ มีเพียงการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนเท่านั้น อีกทั้งหากพิจารณานโยบายของเรา จะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มีนโยบายที่เป็นโครงการเมกะโปรเจคอะไร ที่ต้องใช้งบประมาณในจำนวนมหาศาล มีแต่จะเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ซึ่งผมอยากให้ประชาชนมั่นใจในนโยบายของเราและเลือกพรรคภูมิใจไทยที่มีหัวใจคือประเทศไทย” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
