“ดวงฤทธิ์” ลุ้นผลประชุมบอร์ด ทอท. สรุปเรื่อง “เทอร์มินอล 2” เผยแปลกใจผ่านมา 2 ปีทำไม “สภาพัฒน์” เพิ่งให้ความเห็นเรื่องสุวรรณภูมิตอนนี้
จากกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและกระทรวงคมนาคมให้ความเห็นว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ควรชะลอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 (Terminal 2) ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแผนแม่บท (Master Plan) สนามบินสุวรรณภูมิฉบับปี 2561 ออกไปก่อน แล้วกลับไปดำเนินการตามมาสเตอร์แพลนฉบับปี 2546 นั้น
นายดวงฤทธิ์ บุนนาค ในฐานะแกนนำนิติบุคคลร่วมทำงานดีบีเอแอลพี-นิเคนเซกเก หรือ “กลุ่มดวงฤทธิ์ บุนนาค” ผู้ชนะการประกวดออกแบบเทอร์มินอล 2 ในสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกแปลกใจกับความคิดเห็นของสภาพัฒน์ที่ออกมาในช่วงเวลานี้ เนื่องจากการประกวดแบบเทอร์มินอล 2 ก็ต้องผ่านความเห็นจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. และสภาพัฒน์มาแล้ว
อีกทั้งการประกวดครั้งล่าสุด ซึ่งทางกลุ่มเป็นผู้ชนะ ก็เป็นการประกวดแบบครั้งที่ 2 จึงไม่ทราบว่าทำไมสภาพัฒน์ไม่ออกมาพูดเรื่องเทอร์มินอล 2 และมาสเตอร์แพลนสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่การประกวดแบบครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ อยากทราบว่า สภาพัฒน์ใช้ข้อมูลชุดใดในการวินิจฉัยความคิดเห็นดังกล่าวและเหตุผลที่ควรกลับไปใช้มาสเตอร์แพลนปี 2546 ด้าน ทอท. ในฐานะผู้ปฏิบัติงานก็คงต้องรับฟังความเห็นและตัดสินใจให้รอบคอบ เนื่องจากถ้าสนามบินสุวรรณภูมิแออัดจนรองรับผู้โดยสารไม่ได้ สุดท้าย ทอท. ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่สภาพัฒน์
นายดวงฤทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับทางกลุ่ม ก็คงต้องรอให้บอร์ด ทอท. สรุปความชัดเจนของโครงการเทอร์มินอล 2 ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ก่อนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด โดยที่ผ่านมาตนรับทราบแค่ว่า ทอท. จะขยายความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของเทอร์มินอล 2 จาก 30 เป็น 40 ล้านคน ซึ่งก็เป็นดุลพินิจของ ทอท. ในฐานะผู้ว่าจ้าง
เบื้องต้นทางกลุ่มก็ได้แจ้งกับ ทอท. แล้วว่า จะยืนวงเงินค่าจ้างไว้ที่ 329 ล้านบาทเท่าเดิมจนกว่าจะมีลงนามสัญญา เพราะแม้เนื้องานจะเพิ่มขึ้น แต่การออกแบบของทางกลุ่มก็มีลักษณะยืดหยุ่น สามารถทำงานได้ด้วยจำนวนบุคลากรเท่าเดิม
สำหรับกรณีที่บอร์ด ทอท. ตัดสินใจยกเลิกผลการประกวดออกแบบนั้น นายดวงฤทธิ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางบอร์ด ทางกลุ่มไม่มีอะไรจะไปต่อรองและขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดที่จะฟ้องร้อง ทอท. แต่ถ้าหากมีการยกเลิกจริง ก็จะส่งผลให้ค่าจ้างออกแบบครั้งใหม่เพิ่มขึ้น 3 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 329 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาทตามกฎหมายใหม่ นอกจากนี้ ทอท. ก็ต้องเสียเวลาประกวดและจ้างออกแบบเพิ่มขึ้นอีก 2 ปี ซึ่งจะเกิดความเสียหายต่อผู้โดยสารและเศรษฐกิจ
ส่วนทางกลุ่มจะเข้าร่วมประกวดออกแบบครั้งใหม่หรือไม่นั้น นายดวงฤทธิ์ กล่าวว่า ก็คงต้องตัดสินใจก่อน เพราะเท่ากับว่าครั้งนี้ทางกลุ่มชนะอย่างใสสะอาด แต่ต้องกลับต้องถูกล้มผลการประกวดไป ดังนั้นจึงต้องดูตามเหตุและผลของสถานการณ์ในอนาคตว่าเป็นอย่างไร ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมประกวดแบบอีกครั้ง
แหล่งข่าวจากกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา เอสเอ กรุ๊ป ผู้ได้คะแนนเทคนิคสูงสุดในการประกวดออกแบบเทอร์มินอล 2 แต่กลับแพ้ฟาล์วให้กับกลุ่มดวงฤทธิ์ เปิดเผยว่า ถ้าหากมีการยกเลิกผลการประกวดออกแบบเทอร์มินอล 2 ในครั้งนี้และเปิดการประกวดออกแบบครั้งใหม่ ทางกลุ่มก็จะเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ทราบว่าจะถูกหมันไส้หรือไม่ เพราะปัจจุบัน เอสเอ กรุ๊ปก็ยังอยู่ในกระบวนการฟ้องร้องเรื่องผลการประกวดออกแบบครั้งนี้กับ ทอท.
