โควิดวันนี้ 6 ก.ค. นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 184,923,557 คน รักษาตัวหายแล้ว 169,292,139 คน และมียอดสะสม ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,000,520 ราย ทำให้วันนี้ ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 336,323 ราย และมีผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 6,049 ราย
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 34,598,361 ราย โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 4,405 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 621,335 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 23 ราย ยังคงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
ทางด้าน อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีตัวเลขผู้ติดเชื้อช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่ 30,618,939 ตามด้วย บราซิล (18,792,511), ฝรั่งเศส (5,786,999 ), รัสเซีย (5,635,294), ตุรกี (5,449,464)
สหราชอาณาจักร (4,930,534), อาร์เจนตินา (4,552,750), โคลอมเบีย (4,375,861) และอิตาลี (4,263,797)
ประเทศที่มียอดสะสมผู้ติดเชื้อมากกว่า 3 ล้านคน รวมถึง สเปน เยอรมนี และอิหร่าน ส่วนประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย ได้แก่ โปแลนด์ เม็กซิโก ยูเครน อินโดนีเซีย เปรู และแอฟริกาใต้ โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ชิลี ฟิลิปปินส์ แคนาดา อิรัก สวีเดน เบลเยียม และโรมาเนีย
สำหรับสถานการณ์ในอาเซียนนั้น กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 29,745 ราย ส่งผลให้ จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,313,829 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุด ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ส่วนผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 558 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 61,140 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข ฟิลิปปินส์ รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อ โควิดวันนี้ 6 ก.ค. ที่ 1,441,746 ราย เพิ่มขึ้น 5,392 คน ส่วนผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 90 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้เสียชีวิตล่าสุด อยู่ที่ 25,192 ราย
ทางด้าน รัฐบาลมาเลเซียมีมติเห็นชอบให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ที่มีภาวะโรคประจำตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรง หากได้รับเชื้อโควิด-19 โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน
นพ. อัดฮัม บาบา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย เปิดเผยว่า วัคซีนของไฟเซอร์ เป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับอนุมัติให้นำมาใช้สำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี ซึ่งมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับการวินิจฉัยว่า ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
เด็กกลุ่มนี้จะได้รับการจัดสรรให้ฉีดวัคซีน พร้อมกับครูอาจารย์ และบุคลากรของสถานศึกษาในช่วงเฟส 2 และเฟส 3 ตามโครงการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 แห่งชาติ (National Covid-19 Immunisation Programme: PICK) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน ส่วนเด็กกลุ่มอื่น ๆ จะได้รับการฉีดวัคซีนในเฟสถัดไป
“เราขอแนะนำให้เด็กวัยรุ่นซึ่งมีโรคประจำตัว และมีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงจากโรคโควิด-19 เข้ารับการฉีดวัคซีน เด็กกลุ่มนี้จะได้รับการป้องกันจากวัคซีนไฟเซอร์”
“วัยรุ่นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เราให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีน เรากำลังให้โอกาสพวกเขาได้ป้องกันตนเองในอนาคตด้วย”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สาหัสต่อเนื่อง!! ยอดดับวันนี้พุ่งอีก 57 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,420 ราย
- ชลบุรีระทึก!! ยอดติดโควิดวันนี้เพิ่มขึ้น 266 ราย สะสมพุ่งทะลุ 1 หมื่นราย
- ‘หมอศิริราช’ ชี้จุดเปลี่ยนสู่ ‘โควิดระลอก 4’ มาจากสายพันธุ์เดลตา
