ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ ปิดวานนี้ (25 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานขึ้นเกือบ 2 ดอลลาร์ แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ ทั้งการคาดการณ์เกี่ยวกับการจัดหาตึงตัว ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 96.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 105.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน ได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐ รวมทั้งการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% แตะที่ 106.4840 เมื่อวานนี้
การอ่อนค่าของดอลลา ร์จะช่วยให้การซื้อน้ำมัน ซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลง และน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของไอเอ็นจี ชี้ว่า ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การจัดหาน้ำมันจากรัสเซียจะปรับตัวลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า หลังหลายประเทศวางแผนจำกัดราคาน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อไม่ให้รัสเซียนำรายได้ในส่วนนี้ มาสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน ส่วนรัสเซียขู่จะตอบโต้ด้วยการไม่ส่งน้ำมัน ให้กับประเทศที่ทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ดี ขาขึ้นของราคา ยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 77.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งนี้ และให้น้ำหนักเพียง 22.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เมื่อ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ สะสมหุ้นน้ำมัน สะท้อนความแข็งแกร่งกลุ่มพลังงาน!!!
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- กบน.ยังตรึงดีเซลที่ 34.94 บาท/ลิตรต่อเนื่อง แม้กองทุนน้ำมันติดลบทะลุ 1 แสนล้าน!