ตำรวจออสเตรเลียจับกุมชายวัย 48 ปี ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ส่งพัสดุอย่างน้อย 38 ห่อไปยังสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลรวมเกือบ 20 แห่ง ทั้งในกรุงแคนเบอร์ราและเมืองเมลเบิร์น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติของออสเตรเลีย ( เอเอฟพี ) แถลงว่า จับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ที่บ้านพักของเขาในเมืองเชปพาร์ตัน ทางตอนเหนือของรัฐวิกตอเรีย พร้อมนำตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ขึ้นศาลแขวงที่เมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรีย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ที่มีบทลงโทษจำคุกนานสูงสุด 10 ปี
ชายคนนี้ เขาตกเป็นผู้ต้งสงสัยว่าส่งพัสดุอย่างน้อย 38 ห่อ ไปยังสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลของประเทศต่างๆ ในกรุงแคนเบอร์รา และเมลเบิร์นรวมเกือบ 20 แห่งรวมถึง สหรัฐ สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ปากีสถาน ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ อียิปต์ อินโดนีเซีย และไทย
ในจำนวนพัสดุทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ยึดมาได้นั้น มีอย่างน้อย 9 ห่อซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่า “ไม่มีอันตราย” แต่กำลังตรวจสอบพัสดุที่เหลืออีก 29 ห่ออย่างละเอียด
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังสถานกงสุลอาร์เจนตินาประจำเมืองซิดนีย์ได้รับ “พัสดุต้องสงสัย” เคราะห์ดีเมื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่วัตถุอันตราย
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียส่งอีเมลแจ้งเตือนไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลทุกแห่งในประเทศ ให้เพิ่มความระมัดระวังเมื่อได้รับจดหมายหรือพัสดุ
