ขุนคลังสหรัฐชี้ ตลาดมีปฏิกิริยาที่รุนแรงเกินไป หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยรอบล่าสุด ชี้ เฟดอาจไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกเลยตลอดทั้งปี 2562 หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ
ในการให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์ บิสซิเนส เน็ตเวิร์คนั้น นายสตีเวน มนูชิน รัฐมตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ แสดงความเห็นว่า ตลาดอาจจะผิดหวังต่อความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า และไม่ได้มีความตั้งใจที่จะปรับเปลี่ยนแผนการสำหรับดุลบัญชีเฟดที่หดตัวลง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (19 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยเฟดฟันด์เรทอีก 0.25% มาอยู่ในช่วงระหว่าง 2.25 – 2.5% ทั้งยังส่งสัญญาณถึงการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ในปี 2562 ลดลงจากที่เคยมีการส่งสัญญาณว่าจะขึ้น 3 ครั้ง ในการประชุมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกพากันร่วงลงอย่างหนัก
“ผมเห็นว่า พวกคุณมีสถานการณ์ที่เห็นได้ชัดเจนว่า ตลาดกำลังมีปฏิกิริยาที่รุนแรงเกินไปต่อความเห็นของเฟด” นายมนูชินกล่าว และว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ที่เฟดอาจไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า หากเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ และการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง
เขาเตือนด้วยว่า ตลาดไม่ควรมองเฉพาะตัวเลขคาดการณ์โดยเฉลี่ยของเจ้าหน้าที่เฟด ที่บ่งชี้ถึงการขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2562 แต่ควรมองไปที่ตัวเลขคาดการณ์อื่นๆ ของเฟดด้วย
ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2561 เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดยังปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้า ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.5% ในการประชุมเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งนายมนูชินระบุว่า เขายังคงมองด้านบวกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตราว 3% ในปี 2562 จากการลงทุนทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แรงหนุนจากการยกเครื่องภาษีในปีนี้
สิ่งที่อาจสำคัญไปกว่านั้น คือ การที่เจ้าหน้าที่เฟดลดคาดการณ์เงินเฟ้อในปีหน้า ให้อยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าที่ทางธนาคารกลางตั้งไว้ในระดับ 2%
“ถ้าหากเรายังมีเงินเฟ้อในระดับต่ำ ไม่ว่าจะอยู่เท่าใดก็ตาม ผมว่าคุณจะเห็นสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปจากนี้”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ยังไม่ให้ความสำคัญกับความกังวลของตลาด เกี่ยวกับแผนการของเฟด ที่จะลดการถือครองพอร์ทพันธมัตร และสินทรัพย์อื่นๆ