แรงงานเกาหลีใต้นับหมื่นคน จัดประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศครึ่งวันในวันนี้ (21 พ.ย.) กล่าวหารัฐบาลถอยหลังนโยบายสนับสนุนแรงงาน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างมาก
สหพันธ์สหภาพแรงงานเกาหลี (เคซีทียู) กลุ่มสหภาพแรงงานรายใหญ่ของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า มีแรงงานในกรุงโซล และเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ 13 เมือง เข้าร่วมการหยุดงานประท้วงราว 40,000 คน
ในจำนวนนี้รวมถึง แรงงานราว 10,000 คน ที่ไปรวมตัวกันด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ใส่ผ้าคาดศรีษะสีแดง พร้อมตะโกนข้อความ และชูป้ายที่เขียนข้อความประท้วงต่างๆ โดยมีตำรวจปราบจลาจลหลายร้อยนายเข้าประจำการระวังสถานการณ์อยู่ด้านข้าง
เคซีทียูประเมินด้วยว่า จะมีแรงงานอีกราว 160,000 คน เข้าร่วมการหยุดงานประท้วงทั่วประเทศ
การประท้วงข้างต้นเกิดขึ้น หลังรัฐบาลเกาหลีใต้มีนโยบายที่จะกำหนดชั่วโมงการทำงานสูงสุดของประเทศไว้ไม่เกิน 52 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการที่มีความผันผวนสูง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับแรงงานอย่างมาก
กลุ่มแรงงานยังเรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีมูน แจ อิน ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ขณะหาเสียง ในเรื่องของการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7,530 วอน ให้มาอยู่ที่ 10,000 วอน ภายในปี 2563
การเคลื่อนไหวข้างต้น ยังเกิดขึ้นหลังเมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีมูน มีคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงในด้านเศรษฐกิจ 2 ราย ท่ามกลางการเติบโตอย่างเชื่องช้าของเศรษฐกิจประเทศ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลก จนทำให้อัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้น และช่องว่างรายได้ของประชาชนในประเทศขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาด้านเศรษฐกิจนี้ ทำให้คะแนนนิยมในตัวผู้นำเกาหลีใต้ ลดลงมาเหลือ 52% หรือร่วงลงถึง 13% ในเวลาเพียงแค่ 5 สัปดาห์