ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เปิดซื้อขายในวันนี้ (2 ต.ค.) ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังทำสถิติสูงสุดในรอบ 27 ปีไปเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) แรงหนุนจากเงินเยนอ่อนค่า และขาขึ้นของวอลล์สตรีท
ดัชนีนิกเคอิ ปรับตัวขึ้นมา 0.50% หรือ 121.24 จุด มาอยู่ที่ 24,367 จุด ขณะเงินเยนเคลื่อนไหวล่าสุดที่ 113.96 เยนต่อดอลลาร์
ดอลลาร์ได้แรงหนุนขาขึ้นจากข่าวสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) ฉบับใหม่ ซึ่งเรียกว่า “ข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา” (ยูเอสเอ็มซีเอ) และรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคการผลิต เดือนกันยายนของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
ปัจจัยเรื่องข้อตกลงการค้าดังกล่าว ยังช่วยหนุนให้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นมา 192.90 จุด หรือ 0.73% ปิดซื้อขายที่ 26,651.21 จุด ขณะที่ดัชนี เอส แอนด์ พี 500 ปิดที่ 2,924.59 จุด เพิ่มขึ้น 10.61 จุด หรือ 0.36% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,037.30 จุด ลดลง 9.05 จุด หรือ 0.11%
น้ำมันพุ่งเกิน 2%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ที่ตลาดสหรัฐเมื่อคืนนี้ ทะยานขึ้นมา 2.05 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 75.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.25 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 84.98 ดอลลาร์บาร์เรล
ทางด้านราคาทองคำ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ในตลาดโคเม็กซ์ ของสหรัฐ ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1191.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของดาวโจนส์ ทำให้นักลงทุนพากันเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
