ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เปิดซื้อขายวันนี้ (28 ก.ย.) ทะยานขึ้นเกือบ 300 จุด แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ และเงินเยนอ่อนค่าลง
ดัชนีนิกเคอิ เคลื่อนไหวล่าสุด ทะยานขึ้น 299.42 จุด หรือ 1.26% มาอยู่ที่ 24,095.59 จุด ขณะเงินเยนเคลื่อนไหวที่ระดับ 113.39 เยนต่อดอลลาร์
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดมีแนวโน้มที่จะเกิดการเข้าซื้อมากกว่าเทขาย หลังจากที่หุ้นสหรัฐฟื้นตัว ทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่นักลงทุน จะไล่ซื้อหุ้นกลุ่มส่งออก ในช่วงเวลาที่เงินเยนอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับดอลลาร์
เมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,439.93 จุด เพิ่มขึ้น 54.65 จุด หรือ 0.21% ขณะที่ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ปิดที่ 2,914.00 จุด เพิ่มขึ้น 8.03 จุด หรือ 0.28% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,041.97 จุด เพิ่มขึ้น 51.60 จุด หรือ 0.65%
ตลาดสหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ขณะที่นักลงทุนซึมซับผลการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ทางด้าน ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์ก กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 72.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ในตลาดลอนดอน กำหนดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 81.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะลดลง หลังสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่นำน้ำมันจากคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ ออกมาขาย แม้การคว่ำบาตรอิหร่านจะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นก็ตาม
ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ของสหรัฐ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ร่วงลง 11.7 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 1,187.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดทองคำตกอยู่ใต้แรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด
นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
