ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามในประกาศภาวะฉุกเฉินในวันนี้ (11 ก.ย.) สำหรับรัฐนอร์ทแคโรไลนา และเซาท์แคโรไลนา ที่คาดว่า จะโดนพายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ที่ล่าสุดมีความรุนแรงในระดับ 4 พัดขึ้นฝั่งภายในวันศุกร์นี้ (14 ก.ย.)
การลงนามในประกาศดังกล่าว เป็นขั้นตอนที่จะเปิดทางให้ทรัพยากรจากรัฐบาลกลาง ทั้งเงิน และความช่วยเหลือต่างๆ สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัยได้อย่างเต็มที่
คำประกาศดังกล่าว ยังเกิดขึ้นหลังทางการสหรัฐ มีคำสั่งให้อพยพประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคน ที่อยู่ตามชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ก่อนที่เฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ที่คาดว่าจะเป็นพายุกำลังแรงสุดที่จะพัดผ่านแคโรไลนาในรอบเกือบ 30 ปี
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นเอชซี) ระบุว่า พายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วลม 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มที่จะขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของรัฐนอร์ทแคโรไลนา ในบริเวณที่ใกล้กับเขตติดต่อรัฐเซาท์แคโรไลนา
นายเฮนรี แมคมาสเตอร์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา ได้ลงนามในคำสั่งให้ประชาชน 1 ล้านคน ที่อยู่ตามชายฝั่งของรัฐ อพยพออกจากพื้นที่ตั้งแต่เที่ยงวันนี้ (11 ก.ย.) ตามเวลาในสหรัฐ โดยมีการปิดกั้นทางหลวงให้เดินทางไปเฉพาะฝั่งตะวันตกเท่านั้น
นายแมคมาสเตอร์ ระบุว่า เขายอมเลือกความปลอดภัยดีกว่ามานั่งเสียใจในทีหลัง เขาอยากให้ประชาชนออกจากพื้นที่ด้วยความปลอดภัย
ขณะที่นายราล์ฟ นอร์ทแธม ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ก็ได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนราว 245,000 คน ที่พำนักอยู่ตามชายฝั่งที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม เริ่มตั้งแต่เวลา 8.00 น วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น
ล่าสุด พายุลูกนี้อยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของแหลมเฟียร์ ในรัฐนอร์ทแคโรไลนาราว 1,530 กิโลเมตรท ซึ่งเอ็นเอชซีเตือนว่า พายุลูกนี้จะเป็นเฮอร์ริเคนที่อันตรายอย่างมากตลอดทั้งคืนวันพฤหัสบดี (13 ก.ย.)
นอกจากความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณชายฝั่งแล้ว พายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ที่มีกำลังลมแรงมาก อาจจะทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จ คลื่นลูกใหญ่ที่มีความสูงถึง 3.7 เมตร โดยอาจทำให้เกิดฝนตกตั้งแต่ 508-762 มิลลิเมตร เสี่ยงให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลึกเข้าไปในแผ่นดินหลายกิโลเมตร
ความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ และการเร่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับบ้าน และสำรองวัสดุต่างๆ เพื่อรับมือกับเรื่องนี้ ยังช่วยหนุนให้หุ้นของบริษัทผลิตเครื่องปั่นไฟสำรอง และเชนร้านค้าขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน อย่าง โฮม ดีโป้ อิงค์ และโลว์ส คอส อิงค์ พุ่งสูงขึ้นด้วย
