World News

ประท้วงพ่นพิษ! ‘หลุยส์ วิตตอง’ เล็งปิดสาขาฮ่องกง

“หลุยส์ วิตตอง” แบรนด์สินค้าหรูรายใหญ่สุดของโลกในแง่ยอดขาย เตรียมที่จะปิดร้านสาขา 1 แห่งบนเกาะฮ่องกง หลังการประท้วงที่ยืดเยื้อมานานข้ามปี ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้า ในขณะที่ยังต้องรับมือกับค่าเช่าพื้นที่แพง

GettyImages 1140444963

ปัจจุบัน หลุยส์ วิตตอง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการผลิตกระเป๋าหรูหรา เปิดสาขาบนเกาะฮ่องกงทั้งหมด 8 แห่ง ซึ่งสาขาที่บริษัทเตรียมปิดนั้น ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าไทมส์ สแควร์

หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า การตัดสินดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่บริษัทล้มเหลวในการเจรจากับเจ้าของพื้นที่ เพื่อลดราคาค่าเช่าพื้นที่ลงมา ซึ่งแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมรายหนึ่ง ระบุว่า ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจปิดสาขานี้ หลุยส์ วิตตอง จ่ายค่าเช่าพื้นที่ขนาด 929 ตารางเมตรบนชั้น 2 ของไทมส์ สแควร์ ที่เดือนละประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

อย่างไรก็ดี “วาร์ฟ โฮลดิ้ง” เจ้าของศูนย์การค้า และหลุยส์ วิตตอง ไม่ได้ให้ความเห็นกับข่าวนี้ เช่นเดียวกับ “แอลวีเอ็มเอช” บริษัทแม่ของหลุยส์ วิตตอง ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ

การเคลื่อนไหวของหลุยส์ วิตตอง ยังเกิดขึ้นหลังเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เออร์ลี ไลท์ กรุ๊ป เจ้าของศูนย์การค้าพลาซ่า 2000 ออกมาเปิดเผยว่า “ปราดา” แบรนด์เสื้อผ้า และเครื่องหนังหรูสัญชาติอิตาลี มีแผนที่จะปิดร้านในศูนย์การค้านี้ เมื่อสัญญาเช่า ที่ปราดาต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 9 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง สิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน 2563 เพราะการประท้วงส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท

นับตั้งแต่เกิดการประท้วงต่อต้านคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง ในเดือนมิถุนายน 2562 แบรนด์สินค้าระดับไฮเอนด์ต่างๆ ยังคงดำเนินกิจการในฮ่องกงต่อไป แม้จะมีการปิดร้านบ้างเป็นครั้งคราว ในช่วงเวลาที่สถานการณ์เพิ่มความรุนแรงขึ้น เพราะหวังว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจะผ่อนคลายลงในที่สุด

แต่การประท้วงที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังฮ่องกงลดลง และร้านค้าเหล่านี้เริ่มตกอยู่ในภาวะขาดทุนช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว

ข้อมูลล่าสุดที่ทางการฮ่องกงเปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ (3 ม.ค.) แสดงให้เห็นว่า ยอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ร่วงลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 23.6% มาอยู่ที่ 30,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เป็นการลดลงเดือนที่ 10 ติดต่อกัน

เหตุประท้วงที่ไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุดลง ทำให้ผู้ค้าปลีกบางรายเริ่มพิจารณาถึงการปรับเปลี่ยนเส้นทางการลงทุนไปยังสถานที่อื่นๆ รวมถึง ในจีน และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เพื่อชดเชยกับการขาดทุนในฮ่องกง

Avatar photo