อินเตอร์โพลส่งหมายแดงถึงเลบานอน เพื่อจับกุม “คาร์ลอส โกสน์” อดีตนายใหญ่ “นิสสัน มอเตอร์ส” ขณะตุรกีเปิดฉากสอบสวนกรณีโกสน์ใช้ประเทศเป็นทางผ่าน เดินทางจากญี่ปุ่นไปยังกรุงเบรุต
โกสน์กลายเป็นผู้หลบหนีคดีข้ามชาติ หลังเขาออกมาเปิดเผยตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (31 ธ.ค.)ว่า เดินทางมายังเลบานอน เพื่อหลบหนีเรื่องที่เขาเรียกว่า ระบบยุติธรรมที่ “ปั้นแต่ง” ขึ้นมาในญี่ปุ่น ซึ่งเขาโดนดำเนินคดีในข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงิน
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับโกสน์ บอกว่า การดำเนินคดีที่ล่าช้า และการสั่งห้ามเขาติดต่อกับภรรยา เป็นแรงจูงใจที่ทำให้เขาเดินหน้า ใช้แผนการว่าจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชน ให้พาตัวเขาออกจากญี่ปุ่น โดยเครื่องบินส่วนตัว
หมายแดงของอินเตอร์โพล หรือองค์การตำรวจสากลนั้น เป็นการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวบุคคลที่เป็นที่ต้องการ ซึ่ง แหล่งข่าวในแวดวงยุติธรรมของเลบานอนเปิดเผยว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงภายในประเทศ ได้รับหมายแดงดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งต่อไปให้กับศาล
ทางด้านแหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของเลบานอน ระบุว่า ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเรียกตัวโกสน์เพื่อสอบปากคำ เกี่ยวกับหมายแดงดังกล่าวหรือไม่ แต่เลบานอนจะไม่เนรเทศพลเมืองของตัวเองไปให้กับรัฐบาลต่างชาติ
แหล่งข่าวเผยด้วยว่า ในกรณีที่ผ่านมานั้น หากเลบานอนได้รับหมายแดง ที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองของตัวเองที่พำนักอยู่ในประเทศ จะไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด แต่จะยึดหนังสือเดินทางไว้ และกำหนดเงื่อนไขประกันตัวขึ้นมา
ทั้งนี้ โกสน์ ถือ 3 สัญชาติด้วยกัน คือ ฝรั่งเศส เลบานอน และบราซิล เขายังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเลบานอน ประเทศที่เขาใช้ชีวิตในเด็กที่นี่ ทั้งยังลงทุนในหลายด้าน รวมถึง ถือหุ้นในธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และไร่องุ่น
ล่าสุด มีรายงานว่าทางการตุรกี จับกุมชาวตุรกี 7 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนีของอดีตประธานกรรมการนิสสัน เนื่องจากมีรายงานว่าเครื่องบินส่วนตัวของเขา เดินทางไปยังนครอิสตันบูลของตุรกี ก่อนเดินทางต่อไปยังเลบานอน
ทั้งนี้ หมายแดง หรือ “Red Notice” ของอินเตอร์โพล ใช้แจ้งให้ประเทศในกลุ่มสมาชิกจับกุมบุคคลที่มีหมายจับ หรือผู้ร้ายข้ามแดน ตราบใดที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่มีอยู่
อย่างไรก็ตาม เลบานอนไม่มีข้อตกลงส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับญี่ปุ่น เช่นเดียวกับทางการฝรั่งเศส ที่ยืนยันจะไม่ส่งตัวโกส์นให้กับทางการญี่ปุ่นหากเขาเดินทางไปยังฝรั่งเศส
