ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (17 ธ.ค.) ปรับตัวสูงขึ้น ตามวอลล์สตรีท ที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ แต่การที่ข้อตกลงการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ยังไม่มีรายละเอียด ทำให้การเข้าลงทุนยังไม่เต็มที่
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 24,025.90 จุด ปรับขึ้น 73.55 หรือ 0.31% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 177.64 จุด หรือ 0.65% ที่ 27,685.73 จุด
ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนบวก 4.76 จุด หรือ 0.16% ที่ 2,989.15 จุด และดัชนีสไตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ปรับขึ้น 4.25 จุด หรือ 0.13% ที่ 3,210.34 จุด
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) ที่ 28,235.89 จุด เพิ่มขึ้น 100.51 จุด หรือ 0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,191.45 จุด เพิ่มขึ้น 22.65 จุด หรือ 0.71% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,814.23 จุด เพิ่มขึ้น 79.35 จุด หรือ 0.91%
ทั้งดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ต่างทำนิวไฮรอบใหม่ เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าส่วนแรก การเคลื่อนไหวที่ช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และบริษัทผลิตชิพให้ทะยานสูงขึ้น
เทรดเดอร์ชี้ว่า ตลาดเอเชียได้อานิสงส์จากการทะยานขึ้นของวอลล์สตรีท แต่ยังจำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ดีกว่านี้ เพื่อผลักดันให้เกิดการเข้าลงทุนมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ขาขึ้นวันนี้ ยังได้แรงหนุนบางส่วนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมพุ่งขึ้น 6.2% เมื่อเดือนที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5% ขณะยอดค้าปลีกในเดือนเดียวกันนี้ทะยานขึ้นมาถึง 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.6%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ ยังทรงตัวอยู่ในระดับเดิม หลังจากที่ในการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐเมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 60.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 65.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ล่าสุดอยู่ที่ 1,475.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์
