World News

เศรษฐีฮ่องกงทุ่ม 29 ล้านซื้อที่จอดรถ ตอกย้ำความไม่เท่าเทียม

เศรษฐกิจฮ่องกงอาจกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะถดถอย หลังต้องเผชิญกับการประท้วงอย่างรุนแรงมานานหลายเดือน แต่ความยากลำบากทางเศรษฐกิจนี้ ไม่สามารถหยุดยั้งนักธุรกิจรายหนึ่ง ที่ยอมจ่ายเงินจำนวน 7.6 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 29 ล้านบาท เพื่อซื้อพื้นที่จอดรถในอาคาร “เดอะ เซ็นเตอร์” ซึ่งเป็นตึกที่มีความสูงเป็นอันดับ 5 ของเกาะฮ่องกง

Hong Kong 900x540
อาคารระฟ้าในฮ่องกง

เอเอฟพี รายงานว่า การซื้อที่จอดรถดังกล่าว ตอกย้ำให้เห็นถึงช่องว่าง ความไม่เท่าเทียมกันในสังคมฮ่องกง ที่ประชาชน 1 คนในทุกๆ 5 คน อยู่ใต้เส้นความยากจน หนึ่งในชนวนเหตุที่กระตุ้นให้เกิดการประท้วงในฮ่องกง ที่ยาวนานมาเกือบ 5 เดือนแล้ว

เงินจำนวนดังกล่าว สูงกว่าค่าแรงรายปีโดยเฉลี่ยของชาวฮ่องกง มากกว่า 30 เท่า หรือเทียบได้กับราคาอะพาร์ตเมนต์ขนาด 1 ห้องนอนในย่านเชลซี ซึ่งเป็นเขตที่อยู่หรูหราของกรุงลอนดอน อังกฤษ

การซื้อพื้นที่จอดรถครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำลังมีความกังวลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนสนับสนุนประชาธิปไตย ต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น โดยที่ราคาหุ้นของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นร่วงลงมาอย่างต่อเนื่องช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เดอะ เซ็นเตอร์ เป็นอาคารระฟ้าหรูหรา ที่เคยเป็นข่าวใหญ่มาแล้วเมื่อปี 2560 จากการผงาดขึ้นมาเป็นอาคารสำนักงานที่มีราคาแพงสุดในโลก หลังจากที่เศรษฐีฮ่องกง ขายอาคารแห่งนี้ไปด้วยมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงานระบุด้วยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรงของฮ่องกง กลายมาเป็นประเด็นการเมือง จากการที่ราคายังทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ธุรกิจขนาดเล็กจำนวนหนึ่งต้องปิดกิจการ เพราะจ่ายค่าเช้าในอาคารระฟ้าไม่ไหว และพลเมืองฮ่องกงจำนวนมาก ก็ไม่สามารถซื้อ หรือเช่าบ้านเพื่อพักอาศัยได้

Avatar photo