“ชินโซ อาเบะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ในวันนี้ (11 ก.ย.) รวมถึงการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหม พร้อมดึง “ชินจิโร โคอิซูมิ” นักการเมืองดาวรุ่งที่ได้รับความนิยมสูงเข้าร่วมในคณะรัฐมนตรีใหม่ด้วย
รัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับความสนใจมากสุด คือ นายชินจิโร โคอิซูมิ วัย 38 ปี ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม บุตรชายของนายจุนอิชิโร โคอิซูมิ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมอย่างมากของญี่ปุ่น
นายโยชิมาสะ มารุยามะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาด จากเอสเอ็มบีซี นิกโก ซิเคียวริตีส์ แสดงความเห็นต่อการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดนี้ว่า นายอาเบะตั้งใจที่จะเริ่มต้นเปิดการแข่งขัน สำหรับการคัดเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หรือคนต่อไปหลังจากนี้อีก
ทั้งนี้ นายโคอิซูมิ ถือเป็นนักการเมืองที่เป็นขวัญใจของสื่อญี่ปุ่น และเพิ่งกลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อเร็วๆ นี้ จากการเข้าพิธีสมรสกับแฟนสาว คริสเทล ทากิกาวะ พิธีการรายการโทรทัศน์
การเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ ทำให้นายโคอิซูมิกลายเป็นรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่นนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ซึ่งแม้ว่าเขาจะได้รับความสนใจจากสื่ออย่างมาก แต่เขามักจะหลีกเลี่ยงที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นประเด็นร้อน ทั้งยังมีแนวโน้มว่า จะถูกตรวจสอบอย่างละเอียดในนโยบายเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่ว่า เขาจะยอมแตกหักกับจุดยืนของบิดา ที่ต่อต้านเรื่องนิวเคลียร์หรือไม่
รัฐมนตรีใหม่คนอื่นๆ ในครม. นายอาเบะ รวมถึง นายโทชิมิตสึ โมเตกิ วัย 63 ปี ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จากผลงานการเจรจาการค้ากับสหรัฐ ส่วนนายทาโร โคโนะ เจ้าของตำแหน่งเดิม ถูกย้ายไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม การเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าเป็นการรุกกร้าว ในการดำเนินนโยบายไม้แข็งต่อเกาหลีใต้ ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศกำลังย่ำแย่ลง
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในนโยบายการทูตของญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่บริการจัดการโดยสำนักงานนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
นายโทเบียส แฮร์ริส ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองญี่ปุ่น จากบริษัทที่ปรึกษาเทเนโอะ แสดงความเห็นว่า การปรับตัวรัฐมนตรีในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า อาจเป็นการวางตัวนายโมเตกิ เตรียมไว้สำหรับการแข่งขัน ที่จะหาตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มารับช่วงอำนาจต่อจากนายอาเบะ
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า นายอาเบะ ผู้ที่จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของญี่ปุ่น ช่วงที่มีการเลือกตั้งภายในพรรคในปี 2564 ทำให้สมาชิกพรรคเริ่มมีการหาเสียงกันขึ้นบ้างแล้ว