World News

เตือนจีนใช้ ‘กำลังทหาร’ ปราม ‘ประท้วงฮ่องกง’ บั่นทอนเศรษฐกิจ 2 ฝ่าย

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แนวคิดที่ว่ากองกำลังปลดปล่อยประชาชนจีน (พีแอลเอ) จะมาปรากฎตัวอยู่บนถนนสายต่างๆ ในฮ่องกง แทบจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีใครคิดถึงมาก่อน แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ล่าสุดแล้ว ดูเหมือนเรื่องนี้จะมีความเป็นไปได้มากขึ้น

000 1H7149

ในช่วงเวลาที่การประท้วงเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้นนั้น ทำให้ผู้บัญชาการพีแอลเอ ได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า ไม่ควรยอมรับต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น

นับแต่นั้นเป็นต้นมาฮ่องกงก็ตกอยู่ในสถานการณ์ประท้วงครั้งใหญ่ติดต่อกัน 5 วัน ทำให้ร้านค้าต่างๆ ต้องปิดให้บริการ  การเดินทางทางอากาศตกอยู่ในภาวะปั่นป่วน และทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง แม้กระทั่งตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงก็ต้องเจอกับวันที่เลวร้ายสุดในรอบหลายเดือน เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.)

แม้จนถึงขณะนี้ จะยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ใดๆ ว่า รัฐบาลจีนมีแผนที่จะนำกำลังทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ในฮ่องกง แต่ความกังวลว่า พีแอลเอจะยื่นมือเข้ามาแทรกแซงได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเกาะฮ่องกง ทั้งยังฟื้นความทรงจำเมื่อครั้งกองทัพจีนกวาดล้างการชุมนุมที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในปี 2532

อย่างไรก็ดี วิลลี่ หลำ ผู้ช่วยศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง ชี้ว่า ความคิดที่จะนำพีแอลเอเข้ามาควบคุมความสงบตามท้องถนนในฮ่องกงนั้น เป็นเรื่องที่อันตราย อย่างเหลือเชื่อ ” สำหรับฮ่องกง และเศรษฐกิจของเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ เพราะมีแนวโน้มที่จะทำให้ตลาดหุ้นทรุดหนัก ตามด้วยตลาดที่อยู่อาศัย และเกิดสถานการณ์ที่เป็นภัยร้ายแรงอื่นๆ ตามมา

ตามกฎหมายที่มีอยู่นั้น คณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกงมีสิทธิที่จะร้องขอความช่วยเหลือให้พีแอลเอ ส่งทหารเข้ามาได้มากสุด 6,000 นาย หากความวุ่นวายในสังคมแพร่ขยายออกไปจนควบคุมไม่อยู่

eight col 000 1J89QG
ภาพจากคลิปวีดิโอ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ขณะฝึกซ้อมยุทธวิธีควบคุมฝูงชน

แต่เมื่อพิจารณาจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจีนแล้ว การตัดสินใจที่จะนำทหารเข้าประจำการในฮ่องกง อาจจะส่งผลสะท้อนกลับไปยังจีนทั้งประเทศ ในช่วงเวลาที่ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลก ตกอยู่ท่ามกลางความผันผวนอยู่แล้ว จากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ

“ต่อให้มีทหารแค่ 100 นายในย่านธุรกิจ ถ้าจู่ๆ เรื่องนี้ปรากฎขึ้นบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์รายใหญ่ๆ ทุกฉบับ ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อบริษัทข้ามชาติ ที่มีฐานการดำเนินงานอยู่ในฮ่องกง” นายหลำ ระบุ

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก ในด้านมูลค่าทางตลาด ทรุดลงอย่างหนัก และอาจทำให้มูลค่าบริษัทต่างๆ หายไปหลายพันล้านดอลลาร์

ยิ่งไปกว่านั้น คือ ชื่อเสียงของการลงทุนอย่างเสรีโดยไม่มีจีนเข้ามาแทรกแซงจะเสียหายไปในแบบที่ไม่สามารถระบุได้เลยว่า ตลาดจะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาเมื่อไร หรือฟื้นตัวขึ้นมาได้ไหม

Hong Kong

หากเกิดภาวะไร้เสถียรภาพดังกล่าวขึ้นจริง ก็มีแนวโน้มสูงว่า บริษัทต่างๆ จะเริ่มทบทวนการลงทุนในฮ่องกง และที่สุดแล้ว อาจตัดสินใจย้ายฐานการดำเนินหลักของตัวเองใหม่

“บริษัทเหล่านี้คงยุติการดำเนินงานในฮ่องกงไม่ได้ทั้งหมด แต่อาจจะย้ายการปฏิบัติงานส่วนใหญ่ไปยังสิงคโปร์ และทำให้สิงคโปร์กลายเป็นสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคแทน ทั้งชาวฮ่องกงที่เป็นชนชั้นกลาง จำนวนมาก ก็อาจจะเริ่มย้ายไปตั้งรกรากในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นหลัก”

เกาะอดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้ ถูกส่งมอบคืนแก่รัฐบาลจีนเมื่อปี 2540 และในปัจจุบัน บริหารราชการด้วยกฎหมายระบบพิเศษของตัวเอง ที่ทำให้มีเสรีภาพทางสังคม และเศรษฐกิจมากกว่าเมืองต่างๆ ในจีนอย่างมาก

สถานะพิเศษที่ได้มา ช่วยรักษาชื่อเสียงของฮ่องกง ในฐานะหนึ่งในศูนย์กลางการเงินที่สำคัญสุดของโลกเอาไว้ได้ ทั้งยังถูกมองว่าเป็นสถานที่ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ ที่บริษัท และนักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาดำเนินงานได้ โดยบริษัทข้ามชาติจำนวนมากเข้ามายังฮ่องกง เพื่อทำธุรกิจในจีน ขณะที่บริษัทจีนก็ใช้ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นแหล่งระดมทุน

การปกครองด้วยระบบพิเศษนี้ ยังสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับเศรษฐกิจจีน เปิดทางให้มีการลงทุน และการค้าขนาดใหญ่จากบริษัทต่างชาติหลั่งไหลเข้ามายังแดนมังกร โดยที่รัฐบาลปักกิ่งไม่จำเป็นต้องเปิดตลาดท้องถิ่นอย่างเต็มรูปแบบ

tsing yi shipping container terminal 2

เมื่อปี 2559 ราว 61% ของยอดลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ที่เข้ามาในจีน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 82,000 ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นผ่านทางฮ่องกง

แต่เหตุประท้วงขนาดใหญ่ ที่มีชาวฮ่องกงเข้าร่วมนับล้านคน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของฮ่องกงเอง โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่การประท้วงครั้งใหญ่เริ่มเปิดฉากขึ้นนั้น ยอดค้าปลีกของฮ่องกงร่วงลงมาถึง 6.7%

นักวิเคราะห์บอกด้วยว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ ยังจะจับตาสถานการณ์ในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด ถึงความเป็นไปได้ที่จีนจะส่งกองกำลังพีแอลเอเข้าประจำการ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฮ่องกงมีสถานะเป็นศูนย์กลางการเงินโลก ทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าแรงงานอพยพจากทั่วทุกมุมโลก

Avatar photo