บรรดานายธนาคารกลาง และรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ (จี20) ชี้ ความตึงเครียดด้านการค้า และภูมิศาสตร์การเมืองรุนแรงมากขึ้น ทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกตกอยู่ในความเสี่ยง แต่ไม่ได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐแต่อย่างใด
รายงานข่าวระบุว่า หลังจากที่มีการหารือกันอย่างดุเดือด จนเกือบที่จะยกเลิกการออกแถลงการณ์ร่วม ที่ประชุมรัฐมนตรีคลัง และนายธนาคารกลางกลุ่มจี 20 ก็ได้ออกแถลงการณ์ที่เน้นย้ำถึงการสนับสนุนระบบการค้าแบบพหุภาคี ที่สอดคล้องกับกฎข้อบังคับต่างๆ
“ดูเหมือนว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะยังมีเสถียรภาพอยู่ และโดยทั่วไปประเมินว่า จะขยับขึ้นในระดับพอประมาณช่วงปลายปีนี้ และในปี 2563” แถลงการณ์ร่วมระบุ
อย่างไรก็ดี ที่ประชุมเตือนว่า การขยายตัวจะยังอยู่ในระดับต่ำ และยังมีความเสี่ยงของขาลงอยู่ ที่สำคัญคือ ความตึงเครียดทางการค้า และภูมิศาสตร์การเมืองรุนแรงขึ้น ซึ่งทางกลุ่มจะเดินหน้าแก้ไขความเสี่ยงเหล่านี้ และเตรียมพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมต่อไป
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า บรรดาผู้นำจี20 เห็นพ้องที่จะดำเนินตามกฎระเบียบเดียวกันภายในปี 2563 เพื่อปิดช่องโหว่ ที่ทำให้เหล่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี อย่าง เฟซบุ๊ก และกูเกิล สามารถลดการจ่ายภาษีนิติบุคคลได้
พร้อมกันนี้ ยังให้คำมั่นถึงการเพิ่มความโปร่งใสในเรื่องหนี้ ทั้งในส่วนของผู้กู้ยืม และเจ้าหนี้ นอกเหนือจากเรื่อง การให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืน ประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมา ท่ามกลางความกังวลว่า การผลักดันโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน จะทำให้บรรดาประเทศยากจนต้องแบกรับภาระหนี้จำนวนมหาศาล ที่ชำระคืนไม่ได้
อย่างไรก็ แถลงการณ์ร่วมที่ออกมา ไม่มีการพูดถึงหัวข้อที่นำเสนอมาในเรื่องของ “การตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องกดดันให้มีการแก้ไขความตึงครียดทางการค้า”
