ตลาดหุ้นสหรัฐขยับสูงขึ้นในวันนี้ (15 พ.ค.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐตัดสินใจที่จะเลื่อนการจัดเก็บภาษีทุ่มตลาดต่อรถยนต์นำเข้าออกไปอีก 6 เดือน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ขยับขึ้นมา 160.11 จุด หรือ 0.63% มาอยู่ที่ 25,692.16 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับขึ้นมา 20.65 จุด หรือ 0.73% ที่ 2,855.06 จุด และดัชนีแนสแด็ก บวก 86.95 จุด หรือ 1.12% ที่ 7,821.23 จุด
ในช่วงเปิดซื้อขายนั้น ตลาดตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากข้อมูลการผลิต และยอดค้าปลีก ที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนเมษายน ก่อนที่รายงานข่าวเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวของทรัมป์ จะช่วยให้ตลาดกระเตื้องขึ้นมา
เส้นตายของการตัดสินใจในเรื่องการขึ้นภาษีรถยนต์นำเข้าอยู่ที่วันที่ 18 พฤษภาคม แต่คาดว่า ผู้นำสหรัฐจะเลื่อนการขึ้นภาษีออกไปก่อน นานสุดเป็นเวลา 6 เดือน สถานการณ์ที่ช่วยให้ราคาหุ้นของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ อย่าง ฟอร์ด มอเตอร์ โค และเจนเนอรัล มอเตอร์ โค ทะยานขึ้นมาราว 1%
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเดินทางไปกรุงปักกิ่ง จีน เร็วๆ นี้ เพื่อเจรจาการค้ากับจีนต่อไป
นักวิเคราะห์ ชี้ว่า ถ้อยแถลงของนายมนูชิน กับข่าวการเลื่อนขึ้นภาษีรถยนต์ดังกล่าว ช่วยบรรเทาความวิตกให้กับตลาด แต่เตือนว่า จนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายน ที่จะมีการประชุมจี 20 เกิดขึ้น ตลาดจะตกอยู่ท่ามกลางความผันผวนสูง เว้นแต่ว่าจะมีการแก้ไขปัญหาในบางเรื่องได้
