นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เรียกร้องบริษัทเอกชน ขึ้นเงินเดือนในปี 2567 ในระดับที่สูงขึ้นกว่าปี 2566 ก่อนที่จะเริ่มการเจรจาค่าจ้างประจำปี ที่อาจส่งผลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น และอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด
ในการประชุมที่จัดขึ้นโดย “เคดันเรน” สหพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น ซึ่งเป็นองค์กรล็อบบี้ภาคเอกชนที่ทรงอิทธิพลของญี่ปุ่นนั้น นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า อยากขอความร่วมมือจากบริษัทเอกชน ในการปรับเพิ่มค่าจ้างพนักงานในปี 2567 ให้สูงขึ้นกว่าปีนี้ แต่ไม่ได้ระบุถึงเป้าหมายที่เป็นตัวเลข
นอกจากนี้ นายคิชิดะยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนรายได้หลังหักภาษี ( (Disposable Income) ของประชาชน ผ่านการปรับลดภาษี โดยคาดว่าแผนการลดภาษีจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นก่อนการเจรจาค่าจ้างประจำปี หรือที่เรียกว่า “ชุนโต” (shunto) ระหว่างฝ่ายบริหารและสหภาพแรงงานญี่ปุ่น จะเริ่มขึ้นในช่วงต้นปีหน้า โดยในแง่ของการปรับขึ้นค่าจ้างนั้น ปีงบการเงิน 2566 ถือเป็นปีที่ญี่ปุ่นมีการปรับขึ้นค่าจ้างที่ดีที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ โดยบริษัทเอกชนได้ปรับขึ้นค่าจ้างโดยเฉลี่ย 3.99% และบริษัทขนาดเล็กปรับขึ้น 3%
รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่นมองว่า การปรับขึ้นค่าจ้างเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ครัวเรือนต่าง ๆ หลุดพ้นจากวิกฤติค่าครองชีพที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และทำให้ญี่ปุ่นบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ นายมาซาคาสึ โทคุระ ประธานเคดันเรนกล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการเดินหน้าปรับขึ้นค่าจ้างมากกว่าในปีนี้ เพื่อร่วมมือกับรัฐบาลในการเอาชนะภาวะเงินฝืด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ญี่ปุ่น’ สำรวจพบ ‘วัยทำงาน’ เกือบ 60% ไม่อยากร่วม ‘งานเลี้ยงปีใหม่’ ที่ทำงาน
- ผลสำรวจชี้ ปี 2566 บริษัทญี่ปุ่น ‘ขึ้นเงินเดือน’ สูงทุบสถิติ เฉลี่ย 3.2% ต่อคน
- เงินเดือนญี่ปุ่นขึ้นสูงสุดรอบ 20 ปี