นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย “อันวาร์ อิบราฮิม” เน้นย้ำถึงสิทธิของปาเลสไตน์ในการปกป้องตนเอง ยืนยัน มาเลเซียจะยังคงความสัมพันธ์กับกลุ่มฮามาสต่อไป แม้ว่าจะถูกกดดันจากสหรัฐก็ตาม
นายอันวาร์ กล่าวต่อรัฐสภาในวันนี้ (7 พ.ย.) ว่า ความพยายามของสหรัฐที่จะหยุดยั้งประเทศอื่น ๆ ไม่ให้สนับสนุนกลุ่มฮามาสเป็นการกระทำฝ่ายเดียว และมาเลเซียจะไม่ยอมรับในเรื่องนี้ พร้อมระบุว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นคือสิทธิอันชอบธรรม และเป็นการต่อสู้ของชาวปาเลสไตน์”
คำพูดดังกล่าวของนายอันวาร์ คือการตอบคำถามจากสมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายค้าน ที่ต้องการทราบจุดยืนของมาเลเซีย ที่มีต่อกฎหมายป้องกันการสนับสนุนทางการเงินระหว่างประเทศแก่กลุ่มฮามาส (Hamas International Financing Prevention Act) ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคล องค์กร และรัฐบาลประเทศใด ๆ ที่ให้สนับสนุนกลุ่มฮามาส กลุ่มญิฮัดอิสลามปาเลสไตน์ หรือกลุ่มอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของมาเลเซีย โดยในปีที่แล้ว การค้าทวิภาคีมีมูลค่ารวมประมาณ 77,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งความตึงเครียดใด ๆ ก็ตามในความสัมพันธ์ อาจส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขทางการค้าได้
“ผมจะไม่ยอมรับการข่มขู่ใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงเรื่องนี้ด้วย นี่เป็นการกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าเรา ในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติ จะยอมรับเฉพาะการตัดสินใจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเท่านั้น”
นายอันวาร์กล่าวเสริมว่า มาเลเซียจะให้การสนับสนุนความพยายามของประเทศใด ๆ ก็ตาม รวมถึงปาเลสไตน์ ในการนำอิสราเอลขึ้นดำเนินคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ยูเอ็น’ ร้อง ‘หยุดยิง’ ทันที ชี้ ‘กาซา’ กำลังกลายเป็น ‘สุสานเด็ก’
- ‘อิสราเอล’ จับนักเคลื่อนไหวปาเลสไตน์ ‘อาเฮด ทามิมิ’ ข้อหายุยงก่อการร้าย
- ‘ฮามาส’ อ้าง ‘อิสราเอล’ โจมตีกาซ่า ทำตัวประกันสูญหาย 60 ราย