The Bangkok Insight

16 มี.ค.หารือตั้งกองทุนพยุงหุ้น มั่นใจเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง

“ชาญกฤช” ชี้หุ้นดิ่งไม่เฉพาะไทย แต่เกิดขึ้นทั่วโลก เหตุนักลงทุนผวา การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทุบเศรษฐกิจโลก แต่มีข่าวดีหลัง จีนเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พร้อมให้ความมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง ดึงให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวเร็ว แนะเป็นโอกาสเก็บหุ้นเพื่อลงทุนระยะยาว หารือตั้งกองทุนพยุงหุ้น 16 มี.ค.นี้ 

1314788

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หยุดการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว (Circuit Breaker) ถึง 2 วันติดต่อกัน ในวันพฤหัส และวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังดัชนีหลักทรัพย์เกิดความผันผวนอย่างหนัก เป็นผลกระทบทางจิตวิทยาของนักลงทุน ที่ตื่นตระหนกต่อข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งลุกลามและอาจกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) ของประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกมาประกาศว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในภาพรวมอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะจำนวนผู้ป่วยใหม่ในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางการระบาดของโรคปรับลดสู่ระดับเลขหลักเดียว และไม่พบผู้ป่วยใหม่ในเมืองอื่นๆ ของหูเป่ยครบสัปดาห์แล้ว

สำหรับประเทศไทย ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดอันดับให้เป็นประเทศ ที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นอันดับที่ 6 จากทั้งหมด 195 ประเทศ และเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียว ที่ถูกจัดให้อยู่ใน 10 อันดับสูงสุดของโลก มีความพร้อมในการรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ประยุทธ์113634

และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้บัญชาการศูนย์ฯ เป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมีการยกระดับมาตรการป้องกัน และเฝ้าระวังให้ทันต่อสถานการณ์ ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิต ของไทย จนถึงปัจจุบันมีเพียงรายเดียวเท่านั้น

“ขอให้พี่น้องประชาชน ตื่นตัว แต่อย่าตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจกับมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล ปัจจุบันนายกรัฐมนตรี บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดการบูรณาการทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง การทำงานต้องกระชับ ฉับไว และทันต่อสถานการณ์ ที่สำคัญต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไม่ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความสับสน ” 

หุ้น12

ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับวิกฤติการณ์โรคระบาดมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโรคซาร์สในปี 2546 ไข้หวัดนกในปี 2549 ไวรัสเมอร์สในปี 2556 จนถึงไข้ซิกาในปี 2559 จากสถิติที่มีการรวบรวมเอาไว้พบว่า โดยภาพรวมไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก ดังนั้นจึงขอให้มองวิกฤติ ที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสในการเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี จ่ายปันผลสูง และมีราคาถูกลง เหมาะแก่การสะสมเพื่อลงทุนระยะยาว

โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า มีหุ้นถึง 448 บริษัท ที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ สูงกว่าราคาหุ้นขณะนี้ หุ้นที่มีราคาถูกสุดในรอบ 5 ปี มีถึง 231 บริษัท ส่วนหุ้นที่จ่ายปันผลใน 5-7.5%  มีจำนวน 43 บริษัท จ่ายปันผลอัตรา 7.5-10 % จำนวน 17 บริษัท และจ่ายปันผลสูงกว่า 10 % จำนวน 6 บริษัท

นายชาญกฤช กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับมาตรการดูแลตลาดทุนนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หามาตรการดูแลตลาดหุ้นในภาวะผันผวน เช่น การขายหุ้นโดยไม่มีในมือ (Short Sell) ต้องหาแนวทาง ที่จะสั่งห้ามไม่ให้มีการขายชอร์ตหุ้น ในช่วงนี้ได้หรือไม่ และการบังคับขายหุ้นที่ซื้อโดยใช้ Margin (Forced Sell) จะผ่อนปรนอย่างไรได้บ้าง

ส่วนการจัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพตลาดทุน หรือกองทุนพยุงหุ้น ซึ่งในอดีตเมื่อปี 2546 เคยจัดตั้งกองทุนวายุภักดิ์มาแล้ว ปลัดกระทรวงการคลังกำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาแนวทางที่เหมาะสม ทั้งนี้รายละเอียดต่างๆ จะชัดเจนมากขึ้นในวันจันทร์ที่16 มีนาคมนี้ 

Avatar photo