ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (7 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดีดตัวกว่า 400 จุด หลัง “บอนด์ยิลด์” ปรับตัวลง หนุนขาขึ้นหุ้นกลุ่มเติบโต ที่รวมถึง หุ้นเทคโนโลยี ประกอบกับการเข้าช้อนซื้อ “หุ้นปลอดภัย” ที่สามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 31,581.28 จุด เพิ่มขึ้น 435.98 จุด หรือ +1.40% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,979.87 จุด เพิ่มขึ้น 71.68 จุด หรือ +1.83% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 11,791.90 จุด เพิ่มขึ้น 246.99 จุด หรือ +2.14%
หุ้นกลุ่มเติบโต (Growth Stock) ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ดีดตัวขึ้น หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยิลด์) อายุ 10 ปีร่วงลง
นักลงทุน ยังเข้าซื้อ “หุ้นปลอดภัย” เช่น หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ และกลุ่มสาธารณูปโภค ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 5%
ตลาดยังจับตาการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้ (8 ก.ย.) นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของสถาบันคาโต (Cato Institute)
ส่วนเมื่อวานนี้ นางลาเอล เบรนาร์ด รองประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไปเป็นระยะเวลานานเท่าที่จะทำได้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อให้อ่อนตัวลง การใช้นโยบายการเงินของเฟดอาจสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เฟดก็จะประเมินทั้งสองด้าน แต่ในขณะนี้ เฟดจะใช้นโยบายการเงินที่คุมเข้มเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อจะปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แค่ 8 นาที! ‘พาวเวล’ ทำเศรษฐีอเมริกันสูญเงิน 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์
- ‘พาวเวล’ ลั่นเดินหน้าสู้ ‘เงินเฟ้อ’ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ‘ครั้งใหญ่’ ก.ย.นี้
- ‘ดอลลาร์’ แข็งค่าสุดในรอบ 20 ปี ขานรับ ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง
