Stock

หุ้นรับผลบวก ‘ตลาดรถยนต์มือสอง’ ร้อนแรง

ตลาดรถยนต์มือสอง ร้อนแรง ได้รับอานิสงส์ทั้งด้านราคาและความต้องการ ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร จากปัญหาการขาดแคลน เซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ราคาวัตถุดิบต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 300 – 400%

เป็นประเด็นที่น่าสนใจของช่วงนี้ เมื่อความต้องการของรถยนต์มือสอง กำลังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กระบวนการผลิตรถยนต์ใหม่ที่ป้อนสู่ตลาดมีปัญหา เพราะการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมาจาก 4 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่

1. ปัญหา Trade War ระหว่างสหรัฐกับจีนที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2561

2.  ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นมากจากโควิด-19

3.  การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกในช่วงปลายปีที่แล้ว

4. ปัญหา Supply chain disruption ที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ

วิกฤติดังกล่าว ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ค่อนข้างรุนแรงและชัดเจน ทำให้กำลังการผลิตของค่ายรถยนต์ต่างๆ ทั่วโลก ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้

ตลาดรถยนต์มือสอง

ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ระบุว่า ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ราคาวัตถุดิบต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 300 – 400% ส่งผลให้ค่ายรถยนต์เริ่มทยอยปรับขึ้นราคา ประมาณหลักหมื่นบาท หลังจากสต็อกเก่าเริ่มหมดแล้ว จึงต้องปรับราคาใหม่ตามต้นทุนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคกำลังเจอกับปัญหาการต้องรอรถไปจนถึงปีหน้า เพราะการขาดแคลนชิ้นส่วน ทำให้ค่ายรถยนต์ไม่สามารถผลิตรถใหม่ได้ตามความต้องการ

ปีของรถยนต์มือสอง

บล.กสิกรไทย ได้จัดงาน KS Expert Series ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ โดย นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง ให้ความเห็นว่าราคารถยนต์มือสองในสิ้นปีนี้ จะปรับเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน เนื่องจากอุปทานรถยนต์ใหม่ยังคงมีแนวโน้มลดลง ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลงเหลือไม่ถึง 1 ล้านคัน และปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ใหม่ทุกยี่ห้อ

ปัจจัยดังกล่าวจึงผลักดันการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทย ทั้งนี้ ความต้องการรถยนต์มือสองมีมากขึ้นในทุกช่วงอายุรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์อายุ 1-6 ปี ซึ่งในบางยี่ห้อพบว่ามีราคาสูงกว่ารถใหม่เสียด้วยซ้ำ

ตลาดรถยนต์มือสอง

 

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง ที่จะได้รับอานิสงส์จากตลาดรถยนต์มือสองที่แข็งแกร่งทั้งด้านราคาและความต้องการ โดยจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร ได้แก่ TISCO และ KKP หุ้นกลุ่ม non-bank ได้แก่ HENG และ AMANAH

1. TISCO : บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
เป็นธนาคารที่มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เพราะฉะนั้น เมื่อราคาและความต้องการรถยนต์มือสองสูงขึ้น จะช่วยสนับสนุนมูลค่าหลักประกันของธนาคาร พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการรถยึดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. KKP : ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
จะได้รับผลประโยชน์เช่นเดียวกัน เนื่องจากราคาและความต้องการรถยนต์มือสองสูงขึ้นที่จะช่วยสนับสนุนมูลค่าหลักประกันของธนาคาร

3. HENG : บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ โดยกว่า 50% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง

4. AMANAH : บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
ได้รับประโยชน์จากราคารถยนต์มือสองที่แข็งแกร่ง เนื่องจากจะสนับสนุนอัตราส่วน LTV ของผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อรีไฟแนนซ์

ตลาดรถยนต์มือสอง

Source: Company Data and KS Research ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2565

ถือว่าเป็นปีของตลาดรถยนต์มือสองอย่างแม้จริง ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องได้รับอานิสงส์ไปด้วย ซึ่งเมื่อมองจากสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว ก็มีความเป็นได้ที่ตลาดรถยนต์มือสอง จะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องในอีกหลายไตรมาส

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน