ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (31 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลงกว่า 100 จุด จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และการออกมาแสดงความเห็นถึงการดำเนินโยบายอย่างเข้มงวด ของเจ้าหน้าที่เฟด สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,061.88 จุด ร่วงลง 151.08 จุด หรือ 0.45% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,143.32 จุด ลดลง 14.92 จุด หรือ 0.36% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,122.97 จุด ขยับลงมา 8.16 จุด หรือ 0.07%
หุ้น 10 กลุ่มใน 11 กลุ่ม ของดัชนีเอสแอนด์พี 500 กอดคอกันร่วง ในการซื้อขายช่วงเช้าววันนี้ โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงาน เพียงกลุ่มเดียว ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะยานขึ้นไปยืนเหนือระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากการที่สหภาพยุโรป (อียู) เห็นพ้องที่จะคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียเป็นบางส่วน
ตลาดยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน จากการที่ นายคริสโตเฟอร์ วอลล์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาแสดงความเห็นว่า แบงก์ชาติสหรัฐควรเตรียมพร้อมต่อการขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย ที่จะเกิดขึ้นทุกครั้งนับจากนี้ไป จนกว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้อย่างเด็ดขาด
ท่าทีของนายวอลเลอร์ จุดชนวนให้เกิดการเทขาขายพันธบัตรอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนพากนลดความคาดหวังว่า เฟดอาจระงับการขึ้นดอกเบี้ยสักพัก หลังจากที่ปรับขึ้นในการประชุมเดือนมิถุนายน และกรกฎาคมนี้
ตลาดยังจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กับนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งปัญหาดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวอเมริกัน และกำลังส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของประธานาธิบดีไบเดน
การประชุมระหว่างนายไบเดน กับนายพาวเวล ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ผู้นำสหรัฐ ประกาศเสนอชื่อนายพาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดสมัยที่สอง โดยนายไบเดนจะใช้โอกาสนี้ เพื่อแสดงความยินดีกับนายพาวเวล ที่ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากวุฒิสภาสหรัฐในการผ่านมติให้เขาดำรงตำแหน่งประธานเฟดอีกสมัยด้วย
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนจะหารือกับนายพาวเวล เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ และเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่การทำให้อัตราเงินเฟ้อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระดับที่มีเสถียรภาพ และการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ของประชาชนวัยทำงาน
