Stock

บอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลล์แข็ง ฉุด ‘หุ้น-ทองคำ’ ร่วง ‘น้ำมัน’ ยังขยับขึ้น หวั่นสหรัฐปล่อยน้ำมันดิบสำรอง

ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (15 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ในแดนลบ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ พุ่งขึ้นฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วง ขณะที่ราคาน้ำมัน ยังขยับขึ้น ส่วนราคาทองคำลดลง เหตุดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,087.45 จุด ลดลง 12.86 จุด หรือ 0.04%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,682.80 จุด ลดลง 0.05 จุด หรือ 0.00% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 15,853.85 จุด ลดลง 7.11 จุด หรือ 0.04%

LINE ALBUM Stocksbitcoin ๒๑๑๑๑๖

นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.615%

พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

ตลาดยังจับตารายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงวอลมาร์ท, ทาร์เก็ต, โฮม ดีโป้ และเมซีส์ อิงค์ รวมทั้งจับตารายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนตุลาคม ของสหรัฐในวันนี้ (16 พ.ย.) เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ ปิดขยับขึ้นเล็กน้อย 9 เซนต์ หรือ 0.1% ที่ 80.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างซบเซา

ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น รวมทั้งความเป็นไปได้ที่สหรัฐอาจระบายน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในประเทศ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น และเงินดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับการเทขายทำกำไร ยังเป็นปัจจัยที่ฉุดให้ราคาทองคำ กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ที่ตลาดโคเม็กซ์ ลดลงมา 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดการซื้อขายเมื่อวานนี้ ที่ 1,866.6 ดอลลาร์/ออนซ์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo